ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพแสดงความยินดีกับหน่วยบริการที่ได้รับรางวัลในโครงการประกวดการใช้งานแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ และขอให้รักษาความดีนี้ต่อไป ชี้แอปฯนี้เป็นมากกว่าแอปพลิเคชันแต่เป็นแพล็ตฟอร์มสนับสนุนการทำงานด้านอื่น ๆ ได้นอกเหนือจากการสื่อสารและการส่งงานเบื้องต้น

นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง โครงการประกวดการใช้งานแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ ปี 3 ซึ่งประกาศผลไปเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2562 ที่ผ่านมาว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกทีมที่ได้รางวัลทั้งระดับประเทศและระดับจังหวัด หลายทีมที่ได้รับรางวัลต่อเนื่องกันมาเกือบทุกปีก็ขอให้รักษาความดีและคุณภาพผลงานเหล่านี้ไว้ต่อไป ส่วนทีมที่ได้รับรางวัลดาวรุ่งก็ขอให้กำลังใจว่าปีนี้อาจจะส่งประกวดเป็นปีแรกแต่ก็เริ่มได้รับรางวัลแล้ว เชื่อว่าว่าปีหน้าคงมีโอกาสได้รับรางวัลระดับประเทศหรือระดับจังหวัดต่อไป

ขณะเดียวกัน ทีมที่พลาดรางวัลในปีนี้ก็อย่าเพิ่งท้อแท้เพราะบางทีมอาจเพิ่งเริ่มส่งประกวดเป็นปีแรกหรืออาจยังไม่เข้าใจเรื่องการเรียบเรียงส่งผลงานต่าง ๆ แต่ด้วยความตั้งใจที่จะพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ปีหน้าก็ขอเป็นกำลังใจให้ได้รับรางวัลระดับประเทศ ระดับจังหวัดกันต่อไป

นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า การประกวดในปีนี้ได้เห็นพัฒนาการเกิดขึ้นทั้งในแง่จำนวนทีมที่เข้าร่วมประกวดที่มีมากขึ้นกว่าปีก่อน ๆ และในส่วนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ใช้งานมาอย่างต่อเนื่องจะเห็นว่ามีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งปริมาณและคุณภาพ ส่วนพื้นที่ใหม่ ๆ ที่เริ่มสมัครในปีนี้ก็เห็นความหลากหลายในการนำไปใช้งาน

"ในส่วนของ อสม.ก็มีความสนใจในแอปฯ อสม.ออนไลน์ค่อนข้างมากเพราะสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งแบบรายงาน อสม.1 ที่ต้องส่งทุกเดือน หรือการออกไปทำงานในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปเยี่ยมบ้านหรือป้องกันและควบคุมโรค ไปสำรวจลูกน้ำยุงลายต่าง ๆ ก็สามารถส่งข้อมูลผ่านแอปฯได้ แม้กระทั่ง อสม.บางคนมีอายุมากก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว" นพ.ภานุวัฒน์ กล่าว

รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวอีกว่า พี่น้อง อสม. เป็นกำลังสำคัญในการเชื่อมระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและประชาชนในการสร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพ ปัจจุบันมี อสม.ล้านกว่าคนกระจายอยู่ทั่วประเทศ ถ้าต้องการให้เกิดการสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อสม.ก็จะต้องเป็น อสม. 4.0 ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติของ อสม. 4.0 ก็คือต้องสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลโดยเฉพาะเทคโนโลยีใกล้ตัวอย่างสมาร์ทโฟนและใช้แอปพลิเคชันต่าง ๆ ในการทำงานได้ ซึ่ง แอปฯ อสม.ออนไลน์ ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยในการปฏิบัติงานและรับข้อมูลข่าวสารเพื่อนำไปสื่อสารกับประชาชนได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการเป็น อสม. 4.0 แล้ว ทิศทางของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพในขณะนี้ยังต้องการยกระดับพัฒนา อสม.ให้เป็น อสม.หมอประจำบ้าน โดยปีนี้เริ่มจากตัวแทน อสม.หมู่บ้านละ 1 คน ทำหน้าที่ในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ตลอดจนผลักดันให้ประชาชนในพื้นที่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) สามารถดูแลสุขภาพตนเองได้ หรือชุมชนสามารถจัดการปัญหาสุขภาพได้ ซึ่งจะลดการเจ็บป่วยและช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลได้อีกทางหนึ่ง

"ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราพัฒนาพี่น้อง อสม.ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ในการทำงานที่กล่าวมาทั้งหมด ทั้ง อสม. 4.0 และ อสม.หมอประจำบ้าน โดยตัวเนื้องานเอง อสม.ต้องส่งรายงานหรือรับแนวทางจากเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ซึ่งตอนนี้ อสม.ออนไลน์ พัฒนาเป็นมากกว่าแอปพลิเคชันแต่เป็นแพล็ตฟอร์มที่สามารถเพิ่มเติมการทำงานด้านอื่น ๆ ได้นอกเหนือจากการสื่อสารและการส่งงานเบื้องต้นที่เคยมีมา และคิดว่าจะสอดรับกับนโยบายที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพดำเนินการพัฒนา อสม. ในอนาคตต่อไป" นพ.ภานุวัฒน์ กล่าว

อนึ่ง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ผู้จัดโครงการประกวดการใช้งานแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ ปีที่ 3 ได้ประกาศรายชื่อหน่วยบริการที่ได้รับรางวัลเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2562 โดยมีรางวัลทั้งหมด 123 รางวัล แบ่งเป็นหน่วยบริการสุขภาพที่ได้รับรางวัลดีเด่นระดับประเทศ 10 รางวัล รางวัลดีเด่นระดับจังหวัด 82 รางวัล และรางวัลดาวรุ่ง ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษสำหรับหน่วยบริการสุขภาพ และชมรม อสม.ที่สมัครเข้าร่วมประกวดเป็นครั้งแรกและมีผลงานเชิงปริมาณและคุณภาพอยู่ในระดับที่ดีอีก 31 รางวัล

สำหรับรายชื่อหน่วยบริการสุขภาพที่ได้รับรางวัลดีเด่นระดับประเทศ ประกอบด้วย

1. รพ.สต.กุดบง จ.หนองคาย

2. รพ.สต.ขนาย จ.นครราชสีมา

3. รพ.สต.ชุมช้าง จ.หนองคาย

4. รพ.สต.บางทอง จ.พังงา

5. รพ.สต.บ้านคลองบอน จ.จันทบุรี

6. รพ.สต.บ้านคลองม่วง จ.กระบี่

7. รพ.สต.บ้านชัยชนะ จ.สกลนคร

8. รพ.สต.บ้านทองหลาง จ.พังงา

9. รพ.สต.บ้านโปร่งพรหม จ.กาญจนบุรี

10. รพ.สต.บ้านหนองเกาะ จ.บุรีรัมย์

ทั้งนี้ หน่วยบริการที่ได้รับรางวัลดีเด่นระดับจังหวัดและรางวัลดาวรุ่ง สามารถตรวจสอบรายชื่อที่ผ่านการคัดเลือกได้ที่ Facebook อสม.ออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 2562 เป็นต้นไป โดยทางเอไอเอสจะจัดพิธีมอบรางวัลอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 31 ม.ค. 2563 ซึ่งหน่วยบริการที่ได้รับรางวัลดีเด่นระดับประเทศ จะได้รับเงินรางวัล ๆ ละ 100,000 บาท รางวัลดีเด่นระดับจังหวัด รางวัลละ 40,000 บาท และรางวัลดาวรุ่ง รางวัลละ 10,000 บาท