ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.เผยข่าวดี รักษาผู้ป่วยติดเชื้ออู่ฮั่นหาย ให้กลับบ้านเพิ่ม 1 ราย จับตาผลตรวจเชื้อ 2 แท็กซี่ไทย เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคหลังรับนักท่องเที่ยวจีน พร้อมสั่งการทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับมือการระบาด เน้นเฝ้าระวังชุมชน

เมื่อวันที่ 30 ม.ค.63 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ประจำวันกรณีโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า ไทยยืนยันพบผู้ป่วยที่พบในประเทศเท่าเดิม 14 ราย เป็นผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศทั้งหมด จำนวนนี้รักษาหายจนปลอดเชื้ออนุญาตให้กลับบ้านไปก่อนหน้านี้ 5 ราย ล่าสุดวันนี้ (30 ม.ค.) แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านเพิ่มเติมได้อีก 1 ราย รวมเป็น 6 ราย ที่ไทยรักษาหายจนปลอดเชื้อ เหลือผู้ป่วยที่เหลืออีก 8 ราย ยังอยู่ในห้องแยกโรค ไม่มีรายใดอาการรุนแรง รอรักษาจนกว่าจะไม่มีเชื้อในตัวจะอนุญาตให้กลับได้

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคสะสมจนถึงตอนนี้มี 202 คน อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 67 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 135 ราย โดยในวันที่ 29 ม.ค.63 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่ 44 ราย ทั้งนี้ในจำนวนที่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังนั้นมีคนไทยรวมอยู่ด้วย โดยเป็นคนขับแท็กซี่ 2 ราย ที่สอบประวัติพบว่ามีการรับนักท่องเที่ยวจีน เข้าสู้ระบบการเฝ้าระวังเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจหาเชื้อที่ห้องแล็บ 2 แห่ง คาดว่าจะทราบผลภายใน 1-2 วันนี้ อย่างไรก็ตาม อาการเบื้องต้นไม่มีอะไรน่ากังวล อย่างไรก็ตามแนวโน้มการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีแนวโน้มว่าความรุนแรงลดลง ปัจจุบันพบผู้ป่วยใน 17 ประเทศ มีเพียงประเทศจีนเท่านั้นที่มีผู้เสียชีวิต ส่วนประเทศอื่น ๆ รวมถึงประเทศไทยยังไม่มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า สำหรับวันนี้ (30 ม.ค.63) ได้ประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการระบาด โดยเน้นวางระบบการเฝ้าระวัง จากปัจจุบันที่ทำที่สนามบินเป็นหลัก ก็จะเพิ่มการเข้าไปในชุมชน ให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทุกจังหวัด อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือจากประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัย โดยคนที่ไม่ป่วยขอให้ใช้หน้ากากผ้าทำเองเพื่อป้องกันและลดขยะ ส่วนผู้ที่มีอาการป่วยให้สวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์โดยให้นำด้านที่เป็นสีเขียวออกข้างนอก นำสีขาวที่มีความอ่อนนุ่มไว้ด้านใน ส่วนหน้ากากอนามัยชนิด N95 เป็นหน้ากากสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสโรค

เมื่อถามถึงผลการตรวจสอบกรณีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตปริศนาที่จังหวัดเชียงใหม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการชันสูตร แต่ข้อสังเกตคือโรคระบาดไม่ได้ทำให้เสียชีวิตแบบเฉียบพลัน

เมื่อถามถึงมาตรการดูแลนักศึกษาจากอู่ฮั่นเมื่อกลับมาไทย นพ.โสภณ กล่าวว่า เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศดูแลอย่างดี ทุกรายไม่มีอาการป่วย และอยู่คนเดียวไม่ได้ออกไปไหนมาประมาณ 7 วันแล้ว ดังนั้นเมื่อกลับมาไทยแล้วอาจจะให้อยู่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเอาคนที่ไม่ป่วยมาอยู่โรงพยาบาล แต่ก็จะมีการติดตามอาการใกล้ชิดพร้อมแจกปรอทวัดไข้ตัวเอง ซึ่งคิดว่ามาตรการนี้เพียงพอแล้ว