ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศบค.แถลงสถานการณ์ติดโควิดวันนี้ (8 เม.ย.) เพิ่มอีกรอบ หลังจากเมื่อวานพบ 38 ราย วันนี้สูงเป็น 111 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมเสียชีวิต 30 ราย พบอาการก่อนเสียต่างจากเดิม พบถ่ายเหลว ส่วน 11 จว.ไร้ผู้ป่วยเหลือ 10 จว.แล้ว เหตุสตูลต้านไม่ไหว

เวลา 11.30 น. วันที่ 8 เม.ย.2563 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ว่า สำหรับผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ (8 เม.ย.) เพิ่มขึ้น 111 ราย จากเมื่อวานนี้ (7 เม.ย.) พบเพียงเลข 2 หลัก คือ 38 ราย แต่วันนี้กลับพุ่งขึ้น ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,369 ราย หายป่วยแล้ว 888 ราย ยังรักษาใน รพ. 1,451 ราย เสียชีวิต 3 ราย รวมผู้เสียชีวิตแล้ว 30 ราย

สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วย

รายที่ 1 (รายที่ 28) ชายสัญชาติรัสเซีย 48 ปี มีประวัติไปภูเก็ตวันที่ 18-21 มี.ค. เริ่มป่วยวันที่ 22 มี.ค. ขณะกลับไปพัทยาก็ได้รับการรักษา 25 มี.ค. ที่ รพ.แห่งหนึ่งในจ.ชลบุรี โดยอยู่บ้านด้วยตนเอง และเสียชีวิตวันที่ 5 เม.ย.

รายที่ 2 (รายที่29) เป็นชายอินเดีย 69 ปี ทำธุรกิจส่วนตัว มีประวัติป่วยเบาหวาน โรคหัวใจ เริ่มป่วยวันที่ 17 มี.ค. เข้ารักษาใน รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ในกทม. มีอาการไข้ 39.3 องศา มีไอ น้ำมูก รายนี้มีถ่ายเหลว และเข้าไอซียู ส่งตัวรักษาใน รพ.เอกชน 29 มี.ค. ซึ่งอาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตวันที่ 7 เม.ย.

รายที่ 3 (รายที่ 30) เป็นชายอเมริกันอายุ 69 ปี มีโรคประจำตัวไตเรื้อรัง ปวดกล้ามเนื้อ ไอ หายใจลำบาก รักษาใน รพ.แห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ต่อมาวันที่ 21-22 มี.ค. หายใจหอบเหนื่อยมากขึ้น ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตวันที่ 7 เม.ย.

“เมื่อวานดีใจอยู่หยกๆ วันนี้ตัวเลข 3 หลักมาอีก ซึ่งจากการวิเคราะห์จะเห็นว่า กลับจากต่างประเทศ อย่างอินโดนีเซีย พบติดเชื้อ 42 ท่าน และยังมีจากที่อื่นแต่ยังไม่พบเชื้อ อย่างกาตาร์มีจำนวน 14 คน ตรวจไม่มีอะไร จึงให้ไปอยู่ในสถานที่รัฐจัดให้ใน กทม. ส่วนเกาหลีใต้ 57 คน พบมีไข้ 8 คน อยู่ระหว่างตรวจหาเชื้อ” โฆษก ศบค. กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขพบเพิ่ม 111 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 69 ราย แบ่งเป็น

1.1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันหรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 37 ราย อย่างการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะมาจาก กทม.18 ราย นนทบุรี 7 ราย ยะลา 6 ราย

1.2 ผู้ป่วยกลุ่มอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อนหน้านี้ 11 ราย

-คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ (มาเดือน มี.ค.) 2 ราย

-ไปสถานที่ชุมนุม เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 3 ราย

-อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดชาวต่างชาติ 4 ราย

-บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข 2 ราย

1.3 อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 21 ราย

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยที่เดินทางจากต่างประเทศ (อินโดนีเซีย) 42 ราย

“จากเดิมเราเหลือ 11 จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วย ล่าสุด จ.สตูลพบผู้ป่วยแล้ว ทำให้เหลือ 10 จังหวัดที่ยังไม่พบผู้ป่วย คือ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และอ่างทอง อย่างไรก็ตาม อัตราป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อประชากรแสนคน จำแนกตามจังหวัดที่รับรักษา โดยพบว่า ภูเก็ต มีอัตราป่วย 33.9 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งถือว่ามากที่สุดใน 10 อันดับ รองลงมาคือ กรุงเทพฯ พบอัตราป่วย 21.6 ต่อแสนประชากร ยะลา 12.7 ต่อประชากรแสนคน นนทบุรี 11.2 ต่อประชากรแสนคน ฯลฯ เห็นได้ว่าตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นมาจากต่างประเทศเป็นหลัก” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว