ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

วันที่ 27 เม.ย. พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจตลาดปลอดภัย ลดเสี่ยงโควิด-19 ร่วมกับนางทิชา ณ นคร กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก ณ ตลาดประชานิเวศน์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ว่า จากข้อมูลการสำรวจ Thaistopcovid ของกรมอนามัยในตลาดสด พบว่า ร้อยละ 88.99 ปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing ระหว่างผู้ขายของกับผู้บริโภค นอกจากนี้พ่อค้า แม่ค้า พนักงานตลาด และผู้บริโภคได้ให้ความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ร้อยละ 98.84 จัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดหรือเจลแอลกอฮอล์ ร้อยละ 96.81 และทำความสะอาดแผง โต๊ะจำหน่ายอาหารด้วยน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวัน ร้อยละ 95.65

ดังนั้น กรมอนามัยจึงขอเน้นย้ำให้ทุกตลาดได้ปฏิบัติตามข้อแนะนำ โดยให้เจ้าของตลาดจัดให้มีจุดคัดกรองพ่อค้า แม่ค้า ผู้บริโภค เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา รักษาระยะห่างระหว่างกันไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร และจัดจุดล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ ดูแลสถานที่ให้สะอาด ถูกสุขลักษณะ ด้วยการทำความสะอาดบริเวณพื้น ทางเดิน แผงจำหน่ายสินค้าอย่างน้อยวันละครั้ง และจัดประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ เช่น เสียงตามสาย บอร์ด ป้ายประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง

พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า สำหรับตลาดประชานิเวศน์ที่ได้ลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้ปฏิบัติ ตามคำแนะนำของกรมอนามัยโดยกำหนดทางเข้า-ออก เพื่อคัดกรองคนเข้าตลาด มีการวัดอุณหภูมิ จัดให้มี จุดล้างมือและบริการเจลแอลกอฮอล์ ส่วนผู้จำหน่ายอาหารและผู้ซื้อสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา และรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลและแผง 1-2 เมตร อาหารปรุงสำเร็จต้องมีการปกปิดและใช้อุปกรณ์การหยิบจับอาหาร รวมทั้งทำความสะอาดแผง ร้านค้า อุปกรณ์ของใช้ด้วยน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จับจ่ายสินค้าภายในตลาด สำหรับในส่วนผู้ซื้อและผู้บริโภคนั้น ควรวางแผนการซื้อ และมาตลาดอาทิตย์ละ 1-2 วัน เพื่อใช้เวลาในตลาดให้น้อยที่สุด ไม่ควรพาเด็กและผู้สูงอายุมาตลาดเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อได้ง่าย เมื่อกลับถึงบ้านควรเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำทันที

กรมอนามัยได้จัดทำ Application Stopcovid-19 (http://stopcovid.anamai.moph.go.th) โดยให้ผู้ประกอบการตลาดที่ปฏิบัติตามมาตรฐานประเมินตนเองและปักหมุดร้าน ส่วนผู้บริโภคสามารถตรวจสอบ เลือกการใช้บริการ และร้องเรียนเสนอแนะผ่านช่องทางเดียวกันได้” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว