ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โฆษก ศบค.เผยกรณีมะตูม เปิดเผยไทม์ไลน์จะกลายเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ในวงการบันเทิงหรือไม่ พร้อมย้ำการใส่เฟซชิลด์อย่างเดียวไม่ช่วยป้องกันโรค ถึงแม้จะคลุมทั้งใบหน้า แต่ไม่แนบชิดเหมือนสวมหน้ากากอนามัย

21 ม.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) กล่าวถึงกรณีที่ดีเจมะตูมออกมาเปิดเผยว่าตนเองติดโควิด-19 จะกลายเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ในวงการบันเทิงหรือไม่ว่า ดีเจคนดังกล่าวออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์ของตนเองตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.-ปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับไทม์ไลน์สามารถแยกแยะได้ว่ามีความเสี่ยงกับตนเองเพียงใด เช่น ถ้าใกล้ชิดมากในระยะไม่เกิน 1 เมตรก็ถือว่าเสี่ยงสูง หรือ พูดคุยกันโดยไม่ใส่หน้ากากนานเกิน 5 นาที เป็นต้น ก็จะทำให้คนที่สัมผัสใกล้ชิดเกิดความตื่นตัวและแยกกักตนเอง เป็นความรับผิดชอบ ต้องช่วยกัน เพราะฉะนั้น ถ้าคนสัมผัสเสี่ยงสูงและมีโอกาสรับเชื้อมาก ก็เฝ้าระวังตนเอง และสงสัยก็เข้ารับการตรวจหาเชื้อ หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

“การใส่เฟซชิลด์อย่างเดียวไม่เพียงพอในการช่วยป้องกันโรค เพราะการสวมเฟซชิลด์ ถึงแม้จะคลุมทั้งใบหน้า แต่ไม่แนบชิดเหมือนการสวมหน้ากาก ทำให้ยังสามารถรับเชื้อและแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ แม้ใส่เฟซชิลด์ หากยังนั่งใกล้กันมากก็ยังมีโอกาสได้รับละอองฝอยน้ำลายเต็มที่ สิ่งที่จะช่วยคือการเว้นระยะห่าง แต่มีการศึกษาเช่นกันว่าแม้ห่างแต่อยู่ในห้องที่อากาศปิดก็ยังรับเชื้อได้ จึงไม่มีอะไร100% ดังนั้นหากอยู่ร่วมกันนานในที่อากาศปิดควรใส่หน้ากาก” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว