ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายแพทย์ 1,363 คน ร่วมออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ปิดกัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศทันที พร้อมชวนปชช.ทั่วไปร่วมลงชื่อ ส่วนบรรยากาศกระทรวงสาธารณสุขล่าสุด "อนุทิน-สาธิต" เปิดภาพโอมไหล่ระหว่างรับประทานอาหาร สยบข่าวลือปมเห็นต่างร่างพรบ.กัญชากัญชง

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีสภาผู้แทนราษฎรมีมติให้ถอนร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชงออกจากวาระการพิจารณา ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์แถลงไม่เห็นด้วยกับกฎหมายกัญชา จนทำให้เกิดกระแสว่า หรือนี่จะเป็นปมแตกร้าวของพรรคร่วม ทั้งพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์  ซึ่งทางด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า  สภาฯให้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.กัญชากัญชง กลับไปทบทวน ก็จะกลับไปทบทวน เพราะยังไม่มีการพิจารณาแม้แต่มาตราเดียว ก็ไม่มีปัญหาอะไร  

ผู้สื่อข่าวรายงานเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ทำให้มีคนมองไปที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และ เป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่ร่วมกันถอดถอนวาระการพิจารณาร่างพ.ร.บกัญชา กัญชง พ.ศ...ในสภา ทำให้เกิดคำถามว่า ในฐานะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเดียวกันจะส่งผลต่อการทำงานอื่นๆหรือไม่ หรือจะเกิดความแตกร้าวกันแล้วหรือไม่อย่างไร

บรรยากาศที่กระทรวงสาธารณสุขล่าสุดวันที่ 19 กันยายน เมื่อเวลา 13.00 น. ปรากฎภาพ นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับประทานอาหารร่วมโต๊ะ พร้อมถ่ายภาพโอบไหล่ กับนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการสธ.  ชูนิ้วโป้งหน้าตาชื่นมื่น 

จากนั้นเมื่อผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเบอร์ของนายอนุทิน แต่ปรากฏว่าปลายสายเป็นเสียงของนายสาธิต พร้อมกล่าวว่า “ผมอนุทินเองครับ”  พร้อมมีเสียงหัวเราะระหว่างนายอนุทินและนายสาธิต ก่อนจะวางสายไป เพื่อไปร่วมงานพิธีรับมอบห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 

ผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีที่สภาฯ ให้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชง กลับไปทบทวนนั้น วันเดียวกัน ทางเครือข่ายแพทย์ จำนวน 1,363 คน ร่วมออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ปิดกัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศทันที ใจความระบุว่า เนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 พ.ศ.2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมาได้กำหนดให้พืชกัญชาไม่เป็นยาเสพติด แต่ปัจจุบันยังไม่มีนโยบายควบคุมการใช้กัญชา รวมถึงแนวทางการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมอย่างครอบคลุมและปลอดภัย จนอาจเรียกได้ว่าประเทศไทยมีเสรีกัญชามากที่สุดในโลกกว่า 3 เดือนแล้ว ส่งผลให้มีการใช้กัญชาเชิงนันทนาการอย่างแพร่หลายในชุมชน นำไปสู่การเข้าถึงการใช้กัญชาของเด็กและกลุ่มเปราะบาง ซึ่งผิดไปจากเหตุผลของการออกนโยบายกัญชาเสรีที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องเคยกล่าวอ้างว่าต้องการให้ประชาชนได้เข้าถึงกัญชาทางการแพทย์มากขึ้น

นอกจากนี้การใช้กัญชาโดยปราศจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์นั้นมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนมากมายว่าส่งผลกระทบต่อร่างกายและการเจริญเติบโตของสมองในเด็กและวัยรุ่นอย่างมาก สถานการณ์ในปัจจุบันจึงนับเป็นภัยคุกคามต่อระบบสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างแท้จริง

เครือข่ายแพทย์ฯ จึงขอสนับสนุนข้อเสนอเกี่ยวกับนโยบายกัญชาของประเทศไทยโดยแพทยสภา แพทยสมาคม ราชวิทยาลัยต่างๆ และวิทยาลัยที่ออกประกาศในวันที่ 5 ก.ย. และขอเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องปิดภาวะกัญชาเสรีในทันที โดยไม่ควรรอการประกาศใช้พ.ร.บ.ควบคุมกัญชาและกัญชงที่จะมีในอนาคต เนื่องจากต้องใช้เวลาในพิจารณานาน หากรอจะทำสร้างความเสียหายกับประเทศชาติในวงกว้าง จึงควรพิจารณาหยุดภัยคุกคามทางสาธารณสุขครั้งนี้โดยเร็วที่สุด และดำเนินการโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ 

ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทั่วไป ที่ต้องการสนับสนุนการปิดสุญญากาศกัญชา สามารถลงชื่อได้ที่ change.org/delaycannabislaw

 

 

 *สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org