ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน”ย้ำยุคของตนเน้นกัญชาทางการแพทย์ ส่วนจะกลับเป็นยาเสพติดหรือไม่ และจะกระทบการเข้าถึงผู้ป่วยหรือไม่นั้น ต้องถามรมว.สธ.ท่านใหม่ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร คงต้องให้เห็นข้อมูลประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

 

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพืชสมุนไพรกัญชา ที่อาจถูกกลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ว่า ในยุคที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ตนไม่สามารถประกาศปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดได้เอง ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดแล้วเกิดเป็นการบูลลี่ เป็นการพูดที่ปราศจากความรู้ทางกฎหมาย เพราะกว่าจะดำเนินการทุกขั้นตอน ต้องผ่านคณะอนุกรรมการด้านวิชาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านยาเสพติด ด้านการควบคุม แล้วไปผ่านที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)

 

“ไม่ใช่วันนี้อยากนำกลับก็นำกลับ วันนี้อยากจะปล่อยก็ปล่อย กัญชาวันนี้ก็ยังยืนยันว่าเป็นการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ และการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ องค์การเภสัชกรรม ก็ทำผลิตภัณฑ์ออกมา และยังมีภาคเอกชนอีกด้วย ฉะนั้น อย่างน้อยรัฐมนตรีสาธารณสุขคนนี้ 4 ปีที่ผ่านมา พูดอะไรแล้ว ยืนยันตรงนั้น กัญชาทางการแพทย์ ไม่ใช่พูดว่าครั้งนี้เอา ครั้งนี้ไม่เอา ยืนในหลักการเพื่อการแพทย์มาตลอด คนที่ใช้นอกเหนือจากการแพทย์และสุขภาพ ใช้ผิดประเภท ก็เป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย ก็มีกฎหมายควบคุม เจ้าหน้าที่ก็โดนข่มขู่มามากมาย ดังนั้นควรแก้ไขปัญหาว่าถ้ามีประโยชน์ ก็ใช้ได้แล้วไปผ่านกฎหมายที่สามารถควบคุมการใช้กัญชาให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีบทลงโทษกับผู้ที่จงใจใช้กัญชาผิดกฎหมาย” นายอนุทิน กล่าว

 

เมื่อถามความเห็นถึงแนวคิดการปลดล็อกกัญชาแบบแซนด์บ็อก ให้มีการใช้ได้เฉพาะพื้นที่ นายอนุทิน กล่าวว่า สมัยตนเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ไม่มีแซนด์บ็อก แต่ใช้ประกาศสมุนไพรควบคุม เพื่อควบคุมการใช้ให้ถูกวิธี โดยเกิดประโยชน์สูงสุด ฉะนั้น ตราบใดที่ตนยังไม่พ้นตำแหน่งไป ก็ยังใช้กฎเกณฑ์นี้อยู่

 

เมื่อถามความกังวลของผู้ป่วยที่ใช้กัญชา ถ้ากลับไปเป็นยาเสพติด ก็อาจทำให้การเข้าถึงกัญชายากขึ้น เพราะแพทย์แผนปัจจุบันก็ไม่ค่อยจ่ายยากัญชา นายอนุทิน กล่าวว่า ตนจะกังวลได้อย่างไร เพราะพ้นอำนาจตนไปแล้ว แต่คนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ท่านใหม่ ที่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่คงต้องได้รับข้อมูลมากขึ้น เพราะอาจยังไม่เคยเห็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้ประกอบการพัฒนามา ถ้าท่านได้เห็นข้อมูล เห็นประโยชน์ เห็นข้อมูลจากคลินิกกัญชา จาก รพ. ต่างๆ ทั่วประเทศ หรือลองไปเยี่ยมที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จะได้เห็นการใช้กัญชาให้เกิดประโยชน์ ไปเยี่ยมวิสาหกิจชุมชน ไปถามแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก ผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดด้วยกัญชา ไปถามว่าเป็นอย่างไรแล้วค่อยมาประมวล

 

“ไม่ใช่อยู่เฉยๆ มาบอกว่าไม่เอา เพราะเป็นแฟชั่น แบบนี้ไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องมีข้อมูลสนับสนุน สธ. ยุคที่ผมเข้ามา ก็ไม่ได้ปลดล็อกกัญชาตามที่หาเสียงเลย แต่กว่าจะผ่านออกมาใช้เวลาเข้าปีที่ 3 ใช้เวลาตั้งนานกว่าจะพัฒนามาถึงปัจจุบันนี้ ไม่ใช่ว่าเข้ามาแล้วถือว่ามีอำนาจทำได้ เพราะจริงๆ รมต.ก็ไม่มีอำนาจปลดล็อกกัญชา แต่เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย แต่อย่างไรถ้าท่านใหม่เข้ามา ก็ต้องเคารพ ถ้าไม่เอา ก็ถือเป็นนโยบายของท่าน ท่านก็ไปรับผิดชอบต่อผู้ที่ลงทุนไปแล้ว ผู้ที่เชื่อถือกัญชา ก็ว่ากันตรงนี้ ในส่วนของผมก็ทำในสิ่งที่ให้สัญญากับประชาชนในตอนเลือกตั้ง ผมทำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายอนุทิน กล่าว