ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

จากกรณีสมาคมวิชาชีพสาธารณสุขและชมรมนักวิชาการสาธารณสุข(ประเทศไทย) ยื่นหนังสือถึง รมว.สาธารณสุข ติดตามความก้าวหน้าของสายงานและวิชาชีพ 6 ประเด็นหลัก คือ เรื่องการกำหนดตำแหน่ง“นักสาธารณสุข” เรื่องเงินเพิ่มพิเศษ พตส.นักสาธารณสุขให้ทันในปี 67 นั้น

วันนี้ 7 พฤศจิกายน 2566 มีการประชุม คณะกรรมการประเมินผล ภารกิจโครงสร้าง อัตรากำลัง ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ของหน่วยงานในสังกัด สป.สธ. ซึ่งมีวาระ เกี่ยวกับการพิจารณาจัดคนลงในตำแหน่งนักสาธารณสุข ในครั้งนี้ด้วย

โดย นายริซกี สาร๊ะ เลขาธิการชมรมนักวิชาการสาธารณสุข(ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับ Hfocus ถึงเรื่องนี้ ว่า  วันนี้มีมติเห็นชอบในหลักการและหลักเกณฑ์ การกำหนดตำแหน่งนักสาธารณสุข ให้จัดสรรคนลงตามโครงสร้างของกระทรวงสาธารณสุข โดยล่าสุดในโครงสร้างระบุไว้ว่า ให้นักสาธารณสุขปฏิบัติงานในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน สาธารณสุขอำเภอ และ รพ.สต. ตามข้อระเบียบบังคับที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ เมื่อหลังจากจัดสรรคนลงตามโครงสร้างเรียบร้อยแล้วนั้น เนื่องจากนักสาธารณสุขมีกฎหมายและวิชาชีพเฉพาะ ฉะนั้นการดำเนินงานต่างๆก็จะมีมาตรฐานมากขึ้น เนื่องจากมีข้อบังคับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ในการดำเนินการทางวิชาชีพ เช่น การตรวจประเมินบำบัดโรคเบื้องต้น การให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เป็นต้นซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชน เพราะว่าประชาชนสามารถได้รับบริการเป็นไปตามมาตรฐาน มีองค์กรวิชาชีพคอยควบคุมจรรยาบรรณวิชาชีพ และนักสาธารณสุขก็มีการตื่นตัวและพัฒนาศักยภาพตนเองตามมาตรฐานอยู่ตลอด

"อย่างไรก็ตาม แม้วันนี้จะมีมติเห็นชอบ แต่อาจต้องกลับไปทบทวนในบางประเด็นและส่งให้กองบริหารทรัพยากรบุคคล(บค.) พิจารณาอีกครั้งในวันที่ 16 พ.ย. 66 และจะส่งให้ อ.ก.พ. ในวันที่ 20 พฤศจิกายน อีกครั้ง ถ้าสามารถจัดคนลงได้ก็จะทำให้บุคลากรมีการปรับเปลี่ยนจาก “นักวิชาการสาธารณสุข” เป็น “นักสาธารณสุข” ซึ่งจะมีมาตรฐานและความเป็นวิชาชีพเฉพาะชัดเจนมากขึ้น" 

สุดท้ายยังส่งผลให้มีเรื่องของขวัญกำลังใจ เงินประจำตำแหน่ง เงิน พตส. รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกอบวิชาชีพอื่นๆในกระทรวงสาธารณสุขได้รับนั้น “นักสาธารณสุข” ก็จะได้รับในสัดส่วนที่เท่าเทียมกันนั่นเอง

ส่วนประเด็นที่ยังต้องติดตามต่อไป คือการปรับเปลี่ยนสายงานของสายงานทั่วไป(เจ้าพนักงาน...) ที่มีใบประกอบวิชาชีพสาธารณสุข สู่สายวิชาการ ในตำแหน่งนักสาธารณสุข  ว่า ก.พ. และ สธ. จะมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการปรับตำแหน่งอย่างไรต่อไป    นายริซกี กล่าว