ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามผลงานนโยบายสาธารณสุข ทั้งการฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด มินิธัญญารักษ์  มะเร็งครบวงจร ขณะที่ “รมว.ชลน่าน” เผยความคืบหน้า พร้อมกำชับผู้บริหารสธ.เร่งเดินหน้า 7 ประเด็นเตรียมมอบของขวัญปีใหม่ประชาชน และอสม.กันถ้วนหน้า

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการในการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1(บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี) ของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 3-4 ธันวาคม 2566

โดยเวลา 13.15 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข  นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งผู้บริหารสธ. ได้เดินทางไปบ้านภูดินทอง หมู่ที่ 13 ตำบลกุดดินจี่ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อพบปะ อสม. และผู้นำชุมชน รับฟังการนำเสนผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การบำบัดฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติดโดยชุมชนเป็นธาน หรือ Community Based Treatment  จากนั้นเดินทางไปยังโรงพยาบาลสุวรรณคูหา อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานนโยบายมะเร็งครบวงจร และการตรวจคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดี พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมนินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลสุวรรณคูหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันก่อนนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนั้น  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังลงพื้นที่ไปยังโรงพยาบาลนาวังเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู  โดยได้กำชับการดำเนินงานแก่ผู้บริหารสธ.ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ในประเด็นต่างๆ ดังนี้

1. การดำเนินงานนโยบายมะเร็งครบวงจร และการสร้างทีม Cancer Warior ให้เน้นในส่วนของการคัดกรอง และส่งเสริมให้ประชาชนปรับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ

2. การดำเนินงานเรื่องการดูแลในระยะท้าย และ ใช้สารสนเทศในการดูแลประชาชน

3. ประเด็นปฐมภูมิ : เน้นการแพทย์เฉพาะทางเชิงรุก พาหมอไปหาคนไข้ และ มีนโยบายของขวัญปีใหม่ โดยจัดหน่วยแพทย์เฉพาะทาง ลงพื้นที่ให้บริการ และพบคนไข้ทั้งปี เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา

4. ค่าป่วยการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 2,000 บาท และสนับสนุนให้ อสม. ไปอบรมผ่านหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ หรือ Caregiver (CG) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายชีวาภิบาล

5. ขับเคลื่อน อสม.ไรเดอร์ เพื่อส่งยา ให้ผู้ป่วย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่

6. เน้นขับเคลื่อน home ward และ ลดความแออัด ด้วย telemedicine  เพื่อสามารถเบิกค่าใช้จ่าย IP ผู้ป่วยใน

7. รพ. ทุกแห่งในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.) ต้องส่งข้อมูลขึ้นระบบระเบียนสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (PHR) ของกระทรวงสาธารณสุข และควรพัฒนาระบบให้สะดวกทั้งแพทย์ และประชาชนผู้มารับบริการทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มี smart phone หรือไม่ได้ใช้ app หมอพร้อม โดยการยืนยันผ่านการเสียบบัตรประชาชน  แต่หากประชาชนใช้ app หมอพร้อมอยู่แล้ว จะมีการยืนยัน ผ่าน app หมอพร้อม