ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมการแพทย์ เตือนหยุดยาวปีใหม่ "เมาไม่ขับ" หากเมาแล้วขับจะมีโทษตามกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน  5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ด้าน สบยช.ย้ำให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ตรวจเช็คสภาพรถ มีสติรอบคอบ หากรู้สึกอ่อนเพลียควรหยุดแวะพักในจุดพักรถ     

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2566 นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะมีช่วงวันหยุดยาวประจำปี ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อพักผ่อนกับครอบครัว หรือเดินทางท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ อาจรวมกลุ่มเพื่อสังสรรค์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างการเดินทาง หรือแวะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามร้านอาหาร แล้วเดินทางต่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก 

"เมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ผู้ดื่มขาดสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ อาจเป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาท หรือเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สูญเสียทรัพย์สิน บาดเจ็บและร้ายแรงที่สุดอาจถึงขั้นเสียชีวิต การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกจากส่งผลเสียต่อร่างกายผู้ดื่มแล้ว หากเมาแล้วขับจะมีโทษตามกฎหมาย โดยจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน  5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งพักการใช้ใบอนุญาตขับรถไม่ต่ำกว่า 6 เดือน แต่หากเมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต จะมีโทษจำคุก 3-10 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที"

นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสิ่งที่ป้องกันได้เพียงแค่ทุกคนไม่ประมาท ด้วยการขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เตรียมความพร้อมของรถโดยการตรวจเช็คสภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ มีสติรอบคอบ มีน้ำใจบนท้องถนน หากรู้สึกอ่อนเพลียควรหยุดแวะพักในจุดพักรถ ต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนหรือระหว่างการขับรถโดยเด็ดขาด และต้องย้ำคนในครอบครัว รวมถึงเพื่อนหรือคนใกล้ชิดคอยดูแลกัน หากมีการดื่มต้องไม่ให้ขับขี่โดยเด็ดขาด เท่านี้ก็จะสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย 

หากประสบปัญหาเกี่ยวกับสุรา ยา และสารเสพติด สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 หรือเข้ารับการบำบัดรักษาได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ 

  1. โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ 
  2. โรงพยาบาลธัญญารักษ์แม่ฮ่องสอน 
  3. โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น 
  4. โรงพยาบาลธัญญารักษ์อุดรธานี 
  5. โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา 
  6. โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี 

หรือปรึกษาโรงพยาบาลใกล้บ้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th