ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“ชลน่าน” เผยกฎกระทรวงฯกำหนดยาบ้า 5 เม็ด ผู้เสพเป็นผู้ป่วยมีเงื่อนไขชัดเจนเป็นไปตามเจตนารมณ์กฎหมาย  ย้ำขอผู้เกี่ยวข้องช่วยกันสื่อสารสร้างความเข้าใจ  ตอบกลับกรณี “ผู้การแต้ม” ร้อง ก.ก.ต. สวนกลับ รธน.ใหม่ถอดถอน สส.ไม่ได้

 

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่อาคารนวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพผู้สูงวัย กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้ง “มินิธัญญารักษ์”  ว่า สำหรับมินิธัญญารักษ์ หรือสถานบำบัดรักษาฟื้นฟูยาเสพติดในโรงพยาบาลชุมชน จะเป็นการทำงานร่วมกับชุมชน ขณะนี้มีเกือบ 160 แห่งแล้ว โดยจะมุ่งรักษาผู้ป่วยระยะเฉียบพลัน เป็นกึ่งเฉียบพลันหรือระยะยาว อย่างไรก็ตาม เมื่อมีกฎกระทรวงฯ กำหนดปริมาณการถือครองยาบ้า 5 เม็ด หากสมัครใจต้องบำบัดรักษาตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งมีผู้สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาเพิ่มขึ้นเปรียบเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา  

แสดงว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของการบำบัดรักษาผู้เสพยาที่สมัครใจนั้น เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงฯ กำหนดปริมาณยาบ้า 5 เม็ดใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ถูกต้อง เพราะหากเปิดโอกาสให้คนถือครองไม่เกินกำหนด ซึ่งไม่มีพฤติกรรมการขาย ได้เข้าสู่การบำบัดแล้ว หรือไม่เสพต่อ และให้เข้าคืนสู่สังคมด้วยการดำเนินงานผ่าน “ชุมชนล้อมรักษ์”  ซึ่งตนเพิ่งจะลงพื้นที่ไปที่อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล พบว่ามีผู้เข้ารับการบำบัดรักษา 37 คน  โดยมีผู้ผ่านบำบัดและได้รับการรับรองแล้ว 5 คน และมี 2 ใน 5 ยืนยันกับเราว่า ตั้งใจแล้วจะไม่กลับไปเสพซ้ำ และจะตั้งใจทำงานตามที่ฝึกมา

เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศกฎกระทรวงฯ กำหนดปริมาณนั้น โดย ผู้ว่าแต้ม เห็นว่ากฎกระทรวงดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ และจะยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(ก.ก.ต.)  เพื่อขอให้ถอดถอนความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เราก็พิสูจน์ในสิ่งที่เราทำนั้น อยู่ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ให้อำนาจหน้าที่ไว้ และกระบวนการออกกฎกระทรวงก็ทำตามกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่ได้ใช้อำนาจตามอำเภอใจในการออกประกาศฉบับนี้

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ในการที่จะถอดถอนนั้น รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่มีอำนาจในการถอดถอน สส. อย่างไรก็ตาม ตนยินดีที่จะเข้าไปชี้แจง อย่างเช่นสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินที่รับข้อมูลไว้ หากนัดหมายมาเมื่อไหร่เราก็พร้อมเข้าไปให้ข้อมูล ตอบข้อชี้แจงข้อกล่าวหา โดยเฉพาะประเด็น ที่บอกว่าไปออกกฎกระทรวงขัดเจตนารมณ์ของกฎหมาย คนครอบครองติดคุก คนเสพเท่านั้นถึงจะได้รับการบำบัดรักษา แต่กฎหมายฉบับนี้คำว่าคนเสพที่ได้รับการบำบัดรักษา หมายถึงผู้ถือครองในปริมาณเล็กน้อยตามที่กฎหมายกำหนดถึงจะได้เข้ารับการบำบัดรักษา นี่คือสิ่งที่เราจะชี้แจงทำความเข้าใจได้ ยืนยันว่าเราไม่ได้อนุญาตให้ถือครอง แต่ให้โอกาสในการเข้าสู่การบำบัด หากไม่เข้ารับการบำบัดจะถูกติดคุก มีความผิด แต่หากสมัครใจก็รับบำบัด เมื่อบำบัดครบได้หนังสือรับรองถึงจะไม่มีความผิด

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ที่ยังมีคนไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของกฎหมาย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า  เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องสื่อสารให้ประชาชนให้ทราบถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายยาเสพติด ในการแยกผู้เสพเป็นป่วย เพื่อตัดวงจรการค้ารายย่อย ซึ่งมีข้อมูลว่า มีผู้เสพที่ยังอยู่ใน  1.9 ล้านคน ซึ่งเราก็ให้โอกาสเข้าบำบัด ไม่ถูกตีตราเป็นคดีเมื่อสมัครใจเข้ารับการบำบัดครบ เราต้องสื่อสารเรื่องนี้ให้เข้าใจ

“คนที่เจตนาบิดเบือนเพื่อหวังผลประโยชน์อื่นเราก็ต้องพยายามต่อสู้ให้เขาเหล่านั้นกลับมาเห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง เห็นแก่ลูกหลานเยาวชนที่เราต้องแก้ปัญหาและให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะสื่อมวลชนการสื่อสาร หากสื่อสารโดยการพูดครึ่งเดียวก็จะทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้” นพ.ชลน่าน กล่าว