ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สาธารณสุข ตอบชัดปมยาบ้า 5 เม็ด แก้ปัญหายาเสพติดต้องเป็นไปตามกลไกนายกฯมอบหมาย แต่เหมือนไม่ทำงาน  ชี้ต้องเด็ดขาดใครไม่ทำ! สั่งย้ายทันที เหมือนยุคนายกฯทักษิณ ถ้าเป็นนพ.สสจ. ไม่ยอมทำงาน ตนพร้อมสั่งย้าย ส่วนการปรับเหลือ 1 เม็ดยังไม่มีสัญญาณ

จากกรณีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ออกมาระบุว่า ได้มีการหารือกับรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะให้แก้ไขกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีการกำหนดปริมาณยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด ถือเป็นผู้เสพต้องเข้ารับการบำบัด ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า อาจเสนอปรับเปลี่ยนปริมาณครอบครองเป็น 1 เม็ดแทนนั้น

ยังไร้สัญญาณปรับยาบ้าเป็น 1 เม็ด

เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์สื่อถามถึงกรณีนี้ ว่า กฎกระทรวงออกมาไม่เกิน 5 เม็ด จะปรับหรือไม่ ขึ้นกับการพูดคุยเชิงนโยบาย แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับสัญญาณจะปรับเหลือ 1 เม็ด 2 เม็ด หรือ 3 เม็ดหรือไม่อย่างไร แต่ข้อเท็จจริงคือ หลังออก พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดด พ.ศ. 2564 มีการเสนอกฎกระทรวงอยู่ที่ 15 เม็ด ผ่าน ครม.แล้ว แต่ไปตกที่ชั้นกฤษฎีกา ต่อมาถึงทำกฎกระทรวง 1 เม็ด ก็ถูก ครม.ชุดที่ผ่านมาตีตก ก็เริ่มกระบวนการมาทำใหม่ในรัฐบาลชุดนี้ เสนอที่ 5 เม็ดขึ้นไปถึงผ่าน ฉะนั้น 1 เม็ดเป็นไปได้ไหม ต้องเอาข้อเท็จจริงเดิมๆ มาดู แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ
 

เผยเหตุผล 1 เม็ดหรือ 15 เม็ดไม่ผ่าน

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุผล 1 เม็ด หรือ 15 เม็ดไม่ผ่านเพราะอะไร ทำไมถึงเป็น 5 เม็ด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เหตุผลที่ไม่ผ่านมีการอภิปรายในสภาเยอะมาก โดยเฉพาะ ส.ว. ในห้องประชุมใหญ่และกรรมาธิการ หลายภาคส่วน โดยการกำหนด 1 เม็ดเป็นผู้เสพไม่ช่วยแก้ปัญหา เขาสรุปอย่างนั้น เพราะไม่ว่ากี่เม็ดก็จับกุมอยู่แล้ว แต่หากสันนิษฐานเพื่อบำบัดแค่ 1 เม็ด โอกาสเข้าบำบัดก็น้อยลง คนถูกจับกุมคุมขังตีตรายาเสพติดเข้าสถานพินิจก็จะเหมือนกฎหมายเดิม ซึ่งเขามองไม่ได้ผล ขณะที่ที่คุมขังก็ไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ติดยาเสพติด เพราะที่คุมขังมีเพียงแสนกว่าคน ตอนนี้ก็มีสองแสนกว่าคนแทบล้นคุกอยู่แล้ว หากเอาเข้าไปอีกก็ไม่น่ามีที่คุมขัง และอีกเรื่องมองว่าวิธีการเดิมๆ ไม่ได้ผล การจับกุมคุมขังเหมือนไปฝึกวิทยายุทธ์สร้างเครือข่ายค้ายาเสพิดมากขึ้น

"ส่วนเรื่อง 15 เม็ด กฎหมายฉบับเดิมสันนิษฐาน 15 เม็ดขึ้นไปมีเพื่อจำหน่าย ก็ดำเนินการตามกฎหมาย แต่ต่ำกว่า 15 เม็ดจะพิจารณาพฤติการณ์พฤติกรรมต่างๆ มีครอบครองเพื่ออะไร ถึงตัดสินเข้าสู่การบำบัด ดังนั้น ถ้าเป็น 15 เม็ดก็ไม่น่าต่างจากฎหมายเดิมและส่งเสริมให้มีการเสพมากขึ้น เพราะครอบครองถึง 15 เม็ดเอื้อต่อการค้ารายย่อย" นพ.ชลน่านกล่าว

เมื่อถามว่าหลังออกกฎกระทรวง ผู้เสพจะอ้างกับตำรวจว่าเสพเพียง 5 เม็ด ผู้ค้ารายย่อยก็ทำแพคเกจ 5 เม็ด มีการประกาศขายใน Tiktok นพ.ชลน่านกล่าวว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติด นายกฯ ให้นโยบายเด็ดขาด โดยให้ "5 เสือ" รับผิดชอบ คือ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร สาธารณสุข และท้องถิ่น ฉะนั้น ระดับจังหวัดระดับอำเภอก็ต้องให้ 5 ฝ่ายนี้ในพื้นที่ร่วมกันทำ ถ้ามีปัญหาใดก็แจ้งติดต่อประสานงานคน 5 กลุ่มนี้ตลอดเวลา

แก้ปัญหายาเสพติดต้องเป็นไปตามกลไกนายกฯ แต่เหมือนไม่ทำงาน

 "สิ่งที่พบผมเองก็แปลกใจว่า ทำไมไม่มีการดำเนินการใดๆ แสดงว่ากลไกที่นายกฯ มอบหมายไปไม่ทำงาน ก็ต้องไปดูว่าทำไมไม่ทำงาน ผมอยู่ปลายเหตุที่นำเข้ามาบำบัด ถ้ากลไกไม่ทำงาน ก็ทำไม่สำเร็จ พอเห็นมีปัญหาก็ด่าผมคนเดียว ไม่ยุติธรรม ผมก็ไม่อยากว่าพวกเดียวกันเอง ถ้าผมเป็นนายกฯ ใครไม่ทำงานระดับจังหวัด จะสั่งย้ายทั้งหมด ซึ่งกลไกนี้เคยทำสำเร็จมาแล้วในสมัยนายกฯ ทักษิณ ถ้าจัดการไม่ได้ก็ให้ออก ดังนั้น 5 แกนต้องเข้มแข็ง ผมดูนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.) ถ้าไม่ทำงาน ก็ย้ายออกมา ให้คนเก่งคนอื่นมาทำเอง มาตรการต้องเข้มอย่างนี้ ให้คุณให้โทษด้วย ไม่งั้นเราก็จะเป็นผู้แพ้ต่อผู้ค้าหรือแนวร่วมผู้ค้า บรรดาติ๊กต๊อกทั้งหลาย คือ IO แนวร่วมผู้ค้า จ้างไม่แพง อย่าไปหลงกล" นพ.ชลน่านกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงผู้สมัครใจบำบัดยาเสพติดหลังกฎยาบ้า 5 เม็ดเป็นอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องบอกว่า ไม่ควรพูดคำนี้ เพราะสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนแก่ประชาชน ชักชวนให้เข้าใจผิด กฎหมายยาบ้า 5 เม็ด เป็นวาทกรรม ถ้าไปร่วมผสมโรง   โดยเฉพาะผู้ค้าที่ต้องการเอาชนะนโยบาย ยาบ้าไม่กี่เม็ดก็ผิดทั้งหมด 1 เม็ดก็ผิด ถ้าครอบครองจะผิดฐานครอบครอง ติดคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่น มีการค้าผิดก็ฐานค้าจำหน่ายจ่ายแจก แต่เราเห็นว่าขณะนี้คนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมีมากถึง 1.9 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้ใช้ ไม่มีอาการ 1.46 ล้านคน ผู้เสพ มีอาการไม่รุนแรงระดับสีเหลือง สีส้ม 4 แสนคน ผู้ติด อาการรุนแรงหรือสีแดง 4 หมื่นคน กลุ่มนี้อาจก่ออันตรายต่อสังคม

วิธีการแก้ไขปัญหา ต้องใช้ 3 ป คือ "ปราบปราม" สกัดกั้นผู้ค้า ยึดทรัพย์ ขจัดข้าราชการทุจริต ป นี้ต้องมาก่อน "ปลุกชุมชน" ให้เข้มแข็ง และ "เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย" ซึ่ง 2 เรื่องนี้จะยากมาก เพราะ สธ.เราทำงานปลายเหตุ กฎหมายก็ต้องออกมาเพื่อช่วยเปลี่ยน กรณีครอบครองไม่เกิน 5 เม็ด และสมัครใจเข้าบำบัดรักษาถือว่าเป็น "ผู้เสพ" จะได้รับสิทธิบำบัดรักษา แต่ถ้าไม่สมัครใจ จะมีความผิดฐานครอบครองและติดคุก

"ยาบ้า 5 เม็ด เป็นการเปิดโอกาสให้คนเปิดใจ กลับเนื้อกลับตัวมาบำบัดรักษา เพราะเชื่อว่าเมื่อเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ตามข้อตกลงระหว่างประเทศ จะช่วยลดการเกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้รวดเร็ว และตัดวงจรการค้ารายย่อย" นพ.ชลน่านกล่าว