ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

โพสต์ทูเดย์ 30 มิ.ย.55 -คปภ.ได้ฤกษ์ 1 ส.ค. เริ่มใช้ระบบอีเคลมเชื่อมโรงพยาบาลทั่วประเทศทำให้ผู้ประสบภัยจากรถไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาตัวเองอีก

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้ ผู้ประสบภัยจากรถทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สามารถเข้ารักษาพยาบาลผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ออนไลน์ (E-Claim) ได้โดยไม่ต้องสำรองค่ารักษาพยาบาลไปก่อน

ทั้งนี้ ให้ทางโรงพยาบาลที่ทำการรักษาผู้ประสบภัยจากรถ สามารถวางเอกสารเบิกค่ารักษาผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์กับกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย (กองทุนฯ) ได้โดยตรง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินให้สามารถรับการรักษาได้ทันที

"แนวทางดังกล่าวจะลดขั้นตอนเอกสารสำหรับผู้รับการรักษา และโรงพยาบาลผู้ให้การรักษา สามารถช่วยผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที" นายประเวชกล่าว

อย่างไรก็ตาม คปภ.จะเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งในภาคธุรกิจประกันภัย โรงพยาบาล รวมถึงตำรวจทั่วประเทศ ถึงแนวทางการจ่ายชดเชยค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินจากกองทุนฯ รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่ประชาชนได้รับจากการประกันภัยรถภาคบังคับ(พ.ร.บ.) อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ คณะกรรมการหรือบอร์ดคปภ.ได้มีมติให้บริษัท ฟีนิกซ์ ประกันภัย(ประเทศไทย) สามารถประกอบธุรกิจได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นต้นไป เนื่องจากบริษัทได้ดำเนินการเพิ่มทุนและปรับปรุงระบบงานและบุคลากรเสร็จแล้ว จากก่อนหน้านี้ได้ถูกสั่งให้หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว

"บอร์ด คปภ.ยังเห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการ เพิ่มความยืดหยุ่นและสภาพคล่องทางการเงินให้แก่บริษัทประกันวินาศภัยที่มีภาระการชำระค่าสินไหมทดแทนจากเหตุการณ์อุทกภัยในจำนวนสูง อันได้แก่ ขยายระยะเวลาการจัดสรรสินทรัพย์หนุนหลังไม่น้อยกว่า 60%สำหรับสำรองค่าสินไหมทดแทนสุทธิอันเนื่องจากเหตุการณ์อุทกภัยและผ่อนผันให้นับเงินค้างรับจากการประกันภัยต่อเฉพาะส่วนสินไหมทดแทนเรียกคืนจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้จนถึงวันที่ 31 มี.ค.2556" เลขาธิการ คปภ. กล่าว