ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

ร.พ.บำรุงราษฎร์ รุกซื้อกิจการโรงพยาบาลขนาดกลาง สปีดธุรกิจให้โตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี ชี้เทรนด์ธุรกิจโรงพยาบาลไทยบูมรับเมดิคัลฮับของโลก เผยปี 56 พร้อมหลังควักงบก้อนโตกว่า 5 พันล้านผุดบำรุงราษฎร์สาขา 2 ย่านเพชรบุรี-อโศก

ศ.น.พ.สิน อนุราษฎร์ ผู้อำนวยด้านการแพทย์ กลุ่มโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า จากศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ หรือเมดิคัลฮับทำให้บำรุงราษฎร์ต้องเดินหน้าเจรจาซื้อโรงพยาบาลระดับกลางเพิ่มเติมอีกหลายแห่งเพื่อรองรับการให้บริการแก่ผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับช่วง2-3 ปีที่ผ่านมาโรงพยาบาลค่อนข้างรับผู้ป่วยเต็มที่เฉลี่ย3 พันคนต่อวัน แต่มีเตียงให้บริการคนไข้ประมาณ400 เตียงเท่านั้น ขณะเดียวกันการเข้าไปซื้อกิจการยังช่วยผลักดันให้ธุรกิจโรงพยาบาลสามารถเติบโตได้เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับการลงทุนสร้างโรงพยาบาลเองโดยนโยบายของกลุ่มต้องการให้มีโรงพยาบาล1 เมือง1 แห่ง หรือรัศมีห่างกัน100-200 กิโลเมตรเพื่อป้องกันการแย่งส่วนแบ่งตลาดกันเอง

ขณะที่ความคืบหน้าการลงทุนสร้างโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์แห่งที่2 บริเวณถนนเพชรบุรี-อโศกเนื้อที่6 ไร่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงต้นปี2556 ด้วยงบประมาณ4.7 พันล้านบาท แบ่งเป็นงบซื้อที่ดิน 800 ล้านบาท และลงทุนก่อสร้างอาคาร 8 ชั้นราว 3.9 พันล้านบาท  รวมทั้งต้องใช้งบลงทุนราว 1 พันล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ต่างๆโดยโรงพยาบาลแห่งที่2 นี้จะมีขนาด 200-300 เตียง

และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการรักษาผู้ป่วยได้ในปี2558โดยการลงทุนดังกล่าวถือว่าเลื่อนมา2-3 ปี เนื่องจากที่ผ่านมาเผชิญปัจจัยลบด้านการเมืองและน้ำท่วม

"เราต้องการให้ธุรกิจโรงพยาบาลเติบโตไม่ต่ำกว่า10% ต่อปี ซึ่งการซื้อกิจการจะทำให้ขยายตัวได้เร็วขึ้น ประกอบกับประเทศไทยถือเป็นเมดิคัลฮับของโลกซึ่งมีชาวต่างชาติเข้ามารับบริการทางการแพทย์กว่า1.4-1.5 ล้านคนต่อปี จึงทำให้เราต้องขยายการลงทุนเพื่อรองรับผู้ป่วยดังกล่าว โดยผู้ป่วยต่างชาติเข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ราว 4 แสนคนต่อปี ถือเป็นอัตราการเข้ามาใช้บริการสูงมากเมื่อเทียบกับโรงพยาบาลอื่นในต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์มีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการราว 2 แสนคนต่อปี อเมริกาต่ำกว่า1 แสนคนต่อปีสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บำรุงราษฎร์มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ1 ในการรักษาผู้ป่วยชาวต่างชาติ และปัจจุบันโรงพยาบาลมีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยคนไทย 58% และต่างชาติ42% ส่วนใหญ่เป็นตะวันออกกลาง, สหรัฐอเมริกา,ยุโรปและชาวต่างชาติที่พักอาศัยในประเทศไทย เป็นต้น"

ทั้งนี้ ทิศทางธุรกิจโรงพยาบาลในอนาคตคาดว่าจะต้องมีการสร้างจุดเด่นทางการแพทย์ให้มีความชัดเจนมากขึ้นเพื่อรองรับการเป็นเมดิคัลฮับของโลกโดยโรงพยาบาลที่มีโอกาสรองรับผู้ป่วยจะต้องมีบริการรักษาคนไข้แบบครบวงจรทุกโรค จากปัจจุบันที่มีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ๆได้แก่ โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนต่างๆ โรงพยาบาลรักษาเฉพาะโรคเช่น หู ตา คอ จมูก และโรงพยาบาลที่รักษาแบบครบวงจร

ส่วนแผนการเข้าไปรับบริหารโรงพยาบาลในฮ่องกงได้ล้มเลิกการเจรจาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเพราะเห็นว่าหลักการทำงานและการคิดค่อนข้างแตกต่างกัน ทำให้ปัจจุบันบริษัทไม่มีการลงทุนในต่างประเทศเหลือแต่อย่างใด

สำหรับภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในช่วงครึ่งปีแรกถือว่ามีการเติบโตต่อเนื่องและมีรายได้กว่า 6.5 พันล้านบาท เติบโต 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรกว่า 1 พันล้านบาท เติบโต42% และแนวไตรมาส 3 คาดว่ารายได้และกำไรยังขยายตัวดีต่อเนื่องกรณีที่บริษัทได้ขายหุ้นสามัญของ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จากัด (มหาชน)ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์(เกษมราษฎร์) คิดเป็นสัดส่วน24.99% ของหุ้นที่ออก คิดเป็นเงินกว่า4.5 พันล้านบาท และมีกำไรกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ ขณะที่ภาพรวมทั้งโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์คาดว่าจะมีรายได้กว่า 1.2 หมื่นล้านบาท และเติบโตกว่า10% ตามเป้าหมายที่วางไว้

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 2 - 5 ก.ย. 2555