ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

จากกรณีที่ทางการเวียดนามออกแถลงการณ์ว่า พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่กลายพันธุ์จากเชื้อไวรัสเอส 5 เอ็น 1 (H5N1) หรือเรียกว่า ไฮลี่-ท็อกซิก กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วใน 6 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง โดยมีประชาชนเสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย และทางการได้สั่งกำจัดสัตว์ปีกแล้วกว่า 1.8 แสนตัว ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ต้นตอของการกลายพันธุ์เกิดจากการลักลอบขนสัตว์ปีกจากประเทศจีนมายังภาคเหนือของเวียดนาม ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้จัดให้เวียดนามเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 59 ราย ตั้งแต่ปี 2546

นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ และโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการตรวจสอบของศูนย์ความร่วมมือสุขภาพหนึ่งเดียวแห่งชาติ ที่เป็นการทำงาน ร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กรมปศุสัตว์ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งมีการติดตามสถานการณ์ไข้หวัดนกอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องตลอดเวลา พบว่ายยังไม่พบการระบาดในประเทศไทย และไม่พบผู้ป่วยไข้หวัดนกในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2549 ไม่พบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติตั้งแต่ปี 2551

"การระบาดของเชื้อไข้หวัดนกกลายพันธุ์ในประเทศเวียดนามไม่น่าห่วง เพราะประเทศไทยมีมาตรการการเฝ้าระวังที่ดี แต่ไม่อยากให้ประชาชนประมาท ต้องดำเนินการตามข้อแนะนำเกี่ยวกับการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดอย่างเข้มข้น ส่วนประชาชนที่จะเดินทางไปยังประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะใน 6 จังหวัดที่มีการระบาดของโรค กรมไม่จำเป็นต้องจำกัดการเดินทางด้วยการไม่ให้เข้าไปในพื้นที่แต่มีข้อแนะนำว่า ควรรับประทานสัตว์ปีกและไข่ที่มีการปรุงสุกแล้วเท่านั้น หลีกเลี่ยงไม่ไปสัมผัสกับสัตว์ปีกตาย" นพ.รุ่งเรืองกล่าว

ที่มา: นสพ.คมชัดลึก วันที่ 11 ก.ย. 2555