คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 3,273 ล้านบาท กระจายโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ รองปลัด สธ.เผยพบ 41 แห่ง ขาดสภาพคล่องเรื้อรัง นัดถกแก้ไขปัญหา 14 มกราฯนี้
เมื่อวันที่ 8 มกราคม นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบประมาณจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ตามโครงการงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 หรือโครงการเงินกู้ดีพีแอล (DPL) จำนวน 3,273 ล้านบาท แบ่งเป็น 4 โครงการหลัก ประกอบด้วย 1.โรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่ 747 ล้านบาท 2.โรงพยาบาลทั่วไป 399 ล้านบาท 3.ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านโรคหัวใจและมะเร็ง 1,111 ล้านบาท และ 4.การพัฒนาโรงพยาบาลชุมชนทั่วไป 1,015 ล้านบาท
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า งบดังกล่าวสามารถจัดซื้อครุภัณฑ์ได้ 3,390 รายการ กระจายไปยังโรงพยาบาล อาทิ เครื่องดมยาสลบ เครื่องตรวจอวัยวะภายในด้วยคลื่นความถี่สูง (เครื่องอัลตราซาวด์) เครื่องเอกซเรย์ เครื่องติดตามสัญญาณชีพและการทำงานของหัวใจ กล้องส่องกระเพาะอาหาร เตียงผ่าตัดออร์โธปิดิกส์ เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า เครื่องมือจี้ห้ามเลือด กล้องผ่าตัด ตู้เย็นเก็บเลือด อุปกรณ์ช่วยชีวิตเด็กทารกแรกเกิด เครื่องซักผ้า เครื่องอบและเครื่องนึ่ง เครื่องสวนหัวใจระนาบเดี่ยว เครื่องตรวจหัวใจความถี่สูง เครื่องผ่าตัดน้ำวุ้นลูกตา เป็นต้น โดยหลังจากนี้จะนำเรื่องเสนอเข้าสำนักงบประมาณ
"สำหรับส่วนต่างที่ถูกตัดออกประมาณกว่า 152 ล้านบาท จากที่ สธ.เสนอไว้เดิม 3,426 ล้านบาท นั้น สธ.ได้เสนอขอตั้งงบจัดซื้อครุภัณฑ์เพิ่มเติมในส่วนของกรมการแพทย์ 75 ล้านบาท กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 60 ล้านบาท และสำนักงานปลัด สธ.อีก 17 ล้านบาท เบื้องต้น ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการและให้กลับไปทำ รายละเอียดในการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป" ปลัด สธ.กล่าว
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน รองปลัด สธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการการตรวจสอบปัญหาขาดสภาพคล่องในโรงพยาบาลสังกัด สธ. กล่าวถึงการแก้ปัญหาโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องว่า ที่ผ่านมาได้ให้คณะกรรมการย่อย 12 เขตพื้นที่บริการ ตรวจสอบปัญหาทางการเงินของโรงพยาบาลต่างๆ เบื้องต้นพบว่าโรงพยาบาลในสังกัด สธ.มีปัญหาขาดสภาพคล่องในไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2555 จำนวนทั้งสิ้น 175 แห่ง จากกว่า 900 แห่ง และเมื่อย้อนไป 3 ไตรมาสของปีงบ 2555 พบว่า มีโรงพยาบาล 41 แห่ง จาก 175 แห่ง มีปัญหา ขาดสภาพคล่องเรื้อรัง ขณะนี้ได้ให้ตรวจสอบในรายละเอียดต่อไป และว่าได้นัดประชุมเพื่อติดตามปัญหาในวันที่ 14 มกราคมนี้
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 9 มกราคม 2556
