รองนายกฯ ปลอดประสพเป็นประธานประชุม คกก.แห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ เห็นชอบกรอบแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ ปีงบประมาณ 57-59 เตรียมเสนอ ครม. เห็นชอบเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ใช้เป็นแนวทางจัดทำแผนปฏิบัติการ พร้อมเห็นชอบมาตรการหยุดปัญหาเอดส์ของไทย
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ครั้งที่ 1/2556 โดยมี นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม สรุปสาระสำคัญดังนี้
ที่ประชุมเห็นชอบกรอบแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557-2559 โดยมอบหมายให้กรมควบคุมโรคประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดเป้าหมายการดำเนินงาน แล้วดำเนินการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พร้อมยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2555-2559 เพื่อให้ความเห็นชอบที่จะแจ้งให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการของแต่ละหน่วยงานต่อไป
ทั้งนี้ สาระสำคัญของยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2555-2559 ได้ให้น้ำหนักและความเข้มข้นในการดำเนินงานกับกลุ่มที่คาดว่าจะมีการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ที่เป็นการรับและถ่ายทอดเชื้อฯ จากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย พนักงานบริการและลูกค้า ผู้ใช้ยาเสพติดด้วยวิธีฉีด และคู่เพศสัมพันธ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจไม่รู้หรือรู้ว่าตนเองติดเชื้อฯ ซึ่งจะมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 94 ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดในประเทศไทย (การคาดประมาณจำนวนผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 ด้วย Asian Epidemic Model พบว่ามีจำนวนรวม 43,040 คน) และกำหนดวิสัยทัศน์ ภายใต้ยุทธศาสตร์มุ่งสู่เป้าหมายที่เป็นศูนย์ (AIDS Zero) ประกอบด้วย ไม่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี รายใหม่ ไม่มีการเสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ และไม่มีการตีตราและเลือกปฏิบัติ
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการหยุดปัญหาเอดส์ของประเทศไทย ตามที่กรมควบคุมโรคเสนอดังนี้ 1. มาตรการดำเนินงาน ประกอบด้วย 1) การขยายความครอบคลุมของการดำเนินงานปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการให้การปรึกษาและตรวจการติดเชื้อเอชไอวีที่มุ่งเน้นกลุ่มประชากรหลัก (ชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย พนักงานบริการและผู้ใช้ยาด้วยวิธีฉีด) 2) การให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสฯ แต่เนิ่น ๆ ในทุกคนที่ตรวจพบว่าติดเชื้อฯ (ทุกระดับของ CD4) 3) การสนับสนุนการกินยาสม่ำเสมอโดยชุมชน 4) การบริหารจัดการข้อมูลและการรายงานแนวใหม่ 2. Marginal cost-benefit analysis (พ.ศ. 2556-2566) ป้องกันการติดเชื้อฯ รายใหม่ได้ 20,000 คน และลดการเสียชีวิตจากเอดส์ได้ 22,000 คน โดยให้กรมควบคุมโรค จัดทำรายละเอียดเพื่อพิจารณาร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคม กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ เพื่อดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบการกำหนดตัวชี้วัดของกระทรวงที่มีเป้าหมายร่วมกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ หรือ Joint KPI สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2557-2559 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำงานร่วมกัน และมอบหมายให้กรมควบคุมโรคประสานกับสำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อดำเนินการต่อไป โดย Joint KPI สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2557-2559 ได้แก่ 1. ร้อยละของเยาวชนอายุ 15-25 ปี ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดใน 12 เดือนที่ผ่านมา 2. ร้อยละของประชากร อายุ 15-59 ปี ที่ได้ตรวจและรู้ผลการติดเชื้อเอชไอวี ใน 12 เดือนที่ผ่านมา
ในวาระเพื่อทราบ ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าของการเตรียมการจัดการประชุมสมัชชานานาชาติเรื่องโรคเอดส์ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค ครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 18-22 พฤศจิกายน 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร โดยสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน เป็นเจ้าภาพหลัก กระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพร่วม พร้อมกับภาคประชาสังคมและหน่วยงานวิชาการ ซึ่งการจัดประชุมสมัชชาฯ ครั้งนี้ เป็นการประชุมเรื่องเอชไอวี/เอดส์ ที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก และใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยมีองค์กร ASAP (AIDS Society of Asia and the Pacific) และ UNAIDS เป็นผู้ริเริ่มจัดให้มีการประชุม ICCAP เมื่อ 20 ปีก่อนที่กรุงแคนเบอร่า ประเทศออสเตรเลีย และจัดต่อเนื่องทุก 2 ปี โดยครั้งที่ 11 จะจัดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งมีประเด็นของการประชุมคือ Asia/Pacific Reaching Triple Zero: Investing in Innovation (เอเชียแปซิฟิก: เอดส์ลดให้เหลือศูนย์ได้ด้วยการลงทุนในนวัตกรรม) การประชุมจะแบ่งเป็น 3 โปรแกรมคือ โปรแกรมด้านผู้นำ โปรแกรมด้านวิชาการ และโปรแกรมด้านชุมชน รูปแบบของการประชุมจะเป็นการบรรยายพิเศษ การนำเสนอผลงานทางวิชาการ การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างทักษะการทำงาน การจัดกิจกรรมชุมชน เช่น เวทีชุมชน หมู่บ้านเอเชียและแปซิฟิก การแสดงทางวัฒนธรรม การศึกษาดูงาน เป็นต้น ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขในฐานะเจ้าภาพร่วมของการจัดประชุมได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดประชุม และคณะอนุกรรมการด้านต่าง ๆ 5 คณะ เพื่อสนับสนุนให้การจัดประชุมเป็นไปโดยราบรื่น
ที่มา: http://www.thanonline.com
