ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ไม่เห็นด้วยกับท่าทีของชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพที่เคลื่อนไหวขับไล่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และประกาศเลื่อนการชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนามหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรีจากวันที่ 6 มิ.ย. เป็นวันที่ 20 มิ.ย. นี้ ชี้ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะการประกาศจัดตั้งรพ.คนจนภาคสนาม อาจทำให้ผู้ป่วยที่มาชุมนุมมีความเสี่ยงและได้รับอันตรายต่อสุขภาพ

 

แถลงการณ์ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ฉบับที่ 2 วันที่ 12 มิถุนายน 2556
เรื่อง ไม่เห็นด้วยกับท่าทีและการแสดงออกของชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่าย
 

จากแถลงการณ์ชมรมแพทย์ชนบท (11 มิถุนายน 2556) ซึ่งมีเนื้อหาสาระดังนี้

“ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ ได้เคลื่อนไหวขับไล่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และประกาศ เลื่อนการชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรีจากวันที่ 6 มิ.ย. เป็นจะชุมนุมในวันที่ 20 มิ.ย. 56 ” 

ทางชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป มีความเห็นว่าการแสดงออกดังกล่าวจะสร้างปัญหา ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม อาจทำให้ผู้ป่วยที่มาชุมนุมมีความเสี่ยงและได้รับอันตรายต่อสุขภาพทำให้อาการทรุดลง ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้การเป็นอารยชนที่มีความเจริญควรแสดงออกของจุดยืนในขอบเขตที่สังคมยอมรับได้ 

การที่กล่าวหาว่าผู้แทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หักหลังไม่นำผลสรุปของการเจรจาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเลยนั้นชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป มีความเห็นว่าข้อกล่าวหานั้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้นำข้อสรุปจากที่ประชุมไปแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบครบถ้วนทุกประเด็นแล้ว ทั้งนี้ข้อสรุปส่วนใหญ่นั้น ตรงกันในสาระสำคัญ ดังนี้

1. รัฐบาลยืนยันไม่ใช้ระบบร่วมจ่าย (Co-Payment) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

2. ข้อเสนอเรื่องการยกเลิกการเก็บ 30 บาท หากทบทวนข้อมูลแล้วว่าไม่คุ้มค่าและไม่เหมาะสมก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อพิจารณา

3. รัฐบาล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันที่จะปฏิบัติตาม พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไม่มีนโยบายการโอนเงินงบประมาณไปที่เขตบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขแต่เห็นว่าการจัดสรรงบประมาณจะต้องรับฟังความเห็นของผู้รับบริการตาม พรบ.หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

4. รัฐบาล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะไม่มีการแทรกแซงการบริหารงานภายในของ สปสช.

5. มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงขององค์การเภสัชกรรมแล้ว และเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกันและเปิดกว้าง

6. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะไม่มีการแปรรูปองค์การเภสัชกรรม โดยคงสถานภาพรัฐวิสาหกิจไว้ตามเดิม

7. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่างบประมาณโครงการสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐจำนวน 75 ล้านบาท ให้ดำเนินการไปตามข้อแนะนำของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (ส.ต.ง.) และต้องทบทวนหลักการใช้เงินก้อนนี้ให้ถูกต้องโปร่งใส

สำหรับประเด็นค่าตอบแทนตามมติ ครม. ฉบับ 8 และ 9 อาจมีความเข้าใจไม่ตรงกันในบางประเด็นซึ่งสามารถไปทบทวนและหาแนวทางที่เหมาะสมร่วมกันในคณะกรรมการที่ประกอบด้วยตัวแทนจากทุกวิชาชีพและสถานบริการทุกระดับ 

ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมโดยไม่เจรจา ไม่เห็นด้วยกับการเอาประเด็นอื่นมาเบี่ยงเบนประเด็นค่าตอบแทนตามภาระงาน และไม่เห็นด้วยกับการเอาผู้ป่วยมาเป็นตัวประกัน ควรร่วมมือกันหาข้อสรุปผ่านคณะกรรมการ

 

ด้วยความห่วงใยต่อสถานการณ์ซึ่งอาจกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และเครือข่ายวิชาชีพ
12 มิถุนายน 2556