ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ถึงสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกที่ระบาดในขณะนี้ว่า ไข้เลือดออกปีนี้เป็นปีที่มีความรุนแรงในระดับภูมิภาค จะเห็นได้เลยว่าประเทศไทยสูงขึ้นถึง 3 เท่าหรือประมาณกว่า 90,000 รายสูงกว่าปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันที่มีในช่วงปี 2553 กว่า 90,000 รายในประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ก็ขึ้นมาประมาณ 6 เท่า พม่า ประมาณกว่า 4 เท่า ลาวกว่า 8 เท่า ขึ้นเป็นภูมิภาค รัฐบาลคงจะห้ามค่อนข้างยาก ความรุนแรงขณะนี้จะรู้ว่าถึงจุดอันหนึ่งแล้วเพราะรัฐบาลมีอัตราการเพิ่ม จาก 5,000 คนเป็นอาทิตย์ละ 7,000 คน ตอนนี้สามารถที่จะควบคุมได้แล้วเพราะช่วงนี้เป็นช่วงของหน้าฝน

รมว.สธ. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ซึ่งได้สั่งการมาแล้วว่าขอให้มีการระดมเข้าไปกำจัดยุงและให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องนี้ ในเรื่องของการดูแลตนเองเรื่องของไข้เลือดออก ท่านมีนโยบายที่ชัดเจนว่าให้ทางกระทรวงสาธารณสุขให้ทางอาสาสมัคร อสม. ออกไปให้ความรู้แก่ประชาชนว่าถ้าเจ็บป่วยต้องดูแลตัวเองอย่างไร มีไข้สูง 2 - 3 วันอย่ากินยาแอสไพรินและมีอาการประกอบคลื่นไส้อาเจียนปวดท้องต้องบอกแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะตอนนี้ได้เข้าไปกำจัดยุงในพื้นที่ที่มีปัญหาก็มีพ่นยุงให้ตาย กำจัดยุงต่าง ๆ และเข้าไปแก้ไขอย่างครบวงจร นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่าจะสามารถรณรงค์ให้อัตราการเพิ่มของยุงลดลงให้ได้ ซึ่งก็ได้สั่งการมาจริง ๆ รัฐบาลทำมานานแล้วแต่ได้ทำเข้มข้นขึ้นมากว่าเดิมโดยนำ อสม. ที่รัฐบาลมีนำออกไปให้ความรู้แก่ประชาชน ตอนนี้ อสม. จะเคาะประตูบ้าน จะแนะนำว่าต้องทำอย่างไรมียุงในอ่างน้ำจะมีการกำจัดอย่างไร

นายแพทย์ประดิษฐ์ ยังได้กล่วาถึง จังหวัดที่มีความน่าวิตกและความระบาดของไข้เลือดออกอย่างเข้มข้น กลุ่มที่รัฐบาลเจอคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือนี่คือกลุ่มที่มีอัตราการเป็นโรคนี้สูง ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 93 ราย

"ภายในช่วงเวลา 30 ธันวาคม 2555 – ปัจจุบัน เกือบ ๆ ปีจะอยู่ที่ 98 คน และมีคนป่วย 97,000 คน นับว่ารุนแรงกว่าปีที่แล้วประมาณ 3 เท่า แต่รุนแรงกว่าปี 2553 ที่เป็นอยู่ประมาณเท่ากว่าถึงสองเท่า แต่อย่างที่ย้ำว่าคงลำบากที่จะไปควบคุมตั้งแต่ต้นเพราะเป็นโรคที่ระบาดทั้งภูมิภาค"

นายแพทย์ประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีทีมพิเศษสำหรับไข้เลือดออกโดยเฉพาะ และมีการเข้าไปอบรมเจ้าหน้าที่ทั้งหมดพร้อมประสานงานพร้อมส่งต่อ ปัญหาคือมักจะมาหาแพทย์ค่อนข้างจะช้าไป ส่วนมากจะบอกว่านึกว่าเป็นไข้ปกติแล้วมาหาตอนไข้ลงแล้วมีโรคแทรกซ้อน ๆ ซึ่งมีเลือดออกภายในอวัยวะต่าง ๆ ฉะนั้นถ้ามาหาหมอตอนที่มีไข้อยู่เรายังสามารถแนะนำการป้องกันได้ แต่คนส่วนมากมักบอกว่าไข้ลดลงน่าจะดีขึ้นแล้วแต่ความจริงอาจจะมีโรคแทรกซ้อนเพิ่งมาหาหมอตอนนั้นจะช้าไป ฉะนั้นแนะนำว่าถ้ามีอาการไข้สูงลอยหรือมีปวดเจ็บใต้ซี่โครงขวาเพราะอาจจะมีตับมารวมอะไรแบบนี้ ก็ให้รีบมาหาหมอโดยแต่เนิ่น ๆ และอย่ากินยาแก้ปวดพวกแอสไพรินพอมาเราก็จะให้การดูแลและแนะนำว่าจะต้องทำอย่างไรและต้องเฝ้าสังเกตอาการเพราะไม่อย่างนั้นจะมีการชะล่าใจ เพราะที่รัฐบาลเจออีกกลุ่มหนึ่งก็คือกลุ่มนักเรียนเจอครึ่งร้อยละ 50 ที่มี