ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โรงพยาบาลจุฬารัตน์บจ.น้องใหม่มาแรง ประกาศซื้อธุรกิจโรงพยาบาล 1-2 แห่ง เสนอบอร์ดพ.ย.นี้ คาดดีลพันล้าน เผยเงินพร้อมมาจากการขายหุ้นไอพีโอและเงินกู้ โวปีนี้ผลการดำเนินงานโตตามเป้า 20% นักวิเคราะห์แนะ "ซื้อเก็งกำไร" ให้ราคาเหมาะ 10.30 บาท

น.พ.กำพล พลัสสินทร์ ประธานกรรมการ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน)(บมจ.) (CHG )เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนซื้อกิจการโรงพยาบาล 1-2 แห่ง โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณาหลังปิดงบการเงินไตรมาส 3/2556 หรือในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะมีความชัด เจนในปี 2557โดยจะใช้เงินที่เหลือจากการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) กว่า 400 ล้านบาท ในการเข้าซื้อกิจการ และยังสามารถใช้เงินกู้ได้ด้วย

"การซื้อกิจการโรงพยาบาลครั้งนี้อาจมีมูลค่าสูงถึงพันล้านบาทโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้สนใจหลายราย"

น.พ.กำพลกล่าวถึงความคืบหน้า การก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬารัตน์ แห่งที่ 11 ที่ จ.ปราจีนบุรี คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างได้ภายใน 1 ปี เบื้องต้นจะรองรับการรักษาผู้ป่วยโรคทั่วไปและผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมถึงบริการส่งต่อผู้ป่วย ซึ่งจะมีจำนวนเตียงมากกว่า 100 เตียง และจะสามารถให้บริการผู้ป่วยแบบครบวงจรได้ในระยะเวลา 2-3 ปี ใช้งบลงทุนทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานปีนี้กลุ่มบริษัทมั่นใจว่าจะมีรายได้รวม 2-2.2 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทั้งผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยที่ใช้สวัสดิการของภาครัฐ ประกอบกับเครือโรงพยาบาลได้เปิดศูนย์แพทย์เฉพาะ ทาง เช่น ศูนย์หลอดเลือดและหัวใจ ศูนย์โรคมะเร็ง ขณะที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 400 ล้านบาท จากปีก่อนที่ปิดตัวเลข 286 ล้านบาท เนื่องจากช่วงไตรมาส 3  และไตรมาส 4 ของปีนี้จะมีจำนวนคนไข้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลปกติของธุรกิจโรงพยาบาล

อนึ่ง CHG เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2556

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เกียรตินาคิน จำกัด คาดการณ์แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/2556 ของ CHG จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผลประ กอบการครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิคิดเป็น 46% ของทั้งปีที่ฝ่ายวิเคราะห์ฯคาดไว้ว่า CHG จะมีกำไรสุทธิ 391 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปี 2555 แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" หุ้น CHG จุดเด่นอยู่ที่การรักษาอัตราเติบ โตระยะยาว ให้ราคาเหมาะสม 10.30 บาท ต่อหน่วย

ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 29 ก.ย. - 2 ต.ค. 2556