ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เดลินิวส์ - เมื่อวันที่ 27 ต.ค. นายโกวิท สัจจวิเศษ ผู้ตรวจราชการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ประกันสังคม (ฉบับแก้ไข) พ.ศ. ...ว่า ร่างฯ ดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนรอการพิจารณาในวาระ 2-3 ของสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่าไม่น่าจะทันการประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป พ.ศ. 2556 ที่จะปิดสมัยลงในวันที่ 28 พ.ย. นี้ เนื่องจาก มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเมืองจ่อคิวรอพิจารณาอยู่แล้ว ดังนั้นหากเปิดประชุมสภา สมัยนิติบัญญัติในต้นปี 57 ก็ไม่แน่ใจว่าร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จะหยิบยกขึ้นมาหรือไม่ ทั้งที่ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนจำนวนมาก เช่น การให้คุ้มครองไปถึงกรณีผู้ประกันตนฆ่าตัวตาย ซึ่งกฎหมายเดิมในมาตรา 61 จะไม่คุ้มครองกรณีดังกล่าวทั้งที่ ผู้ประกันตนที่มีปัญหาแล้วนำไปสู่การฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องสุขภาพ ปัญหาครอบครัว  ถ้าไม่ได้รับการคุ้มครองจะไม่มีสิทธิในการรับเงินค่าทำศพหรือกรณีที่ฆ่าตัวตายแต่ไม่ตายและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัว ทางสถานพยาบาลสามารถปฏิเสธการรับคนไข้ได้ อีกทั้งหากเป็นกรณีฆ่าตัวตายแล้วและเสียชีวิต ทายาทของผู้ประกันตนที่เสียชีวิตก็จะไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จ เป็นต้น

นายโกวิท กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ยังให้ความคุ้มครองไปถึงกรณีลูกจ้างรายวันและรายชั่วโมง  เช่น ลูกจ้างกรมป่าไม้ ลูกจ้างกรมที่ดิน ที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ให้ความคุ้มครองกับลูกจ้างที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านเกษตร ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 1-2 แสนคน รวมไปถึงการให้ความคุ้มครองแรงงานต่าง ด้าวที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยประมาณ 3 ล้านคน แต่มีเหตุให้ต้องเดินทางกลับประเทศต้น ทางจะทำให้ได้รับสิทธิในเงินกรณีชราภาพ โดยไม่ต้องรอให้ถึงอายุ 55 ปี ที่สำคัญกฎหมาย ดังกล่าวยังกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานคณะกรรมการ (บอร์ด)ประกันสังคม จากเดิมที่กำหนดให้ปลัดกระทรวง แรงงานเป็นประธาน ซึ่งเรื่องนี้ยังมีข้อถกเถียงกันมาก จึงมีกรรมาธิการหลายคนสงวนคำแปรญัตติไว้ ทั้งนี้หากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีความล่าช้าไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาโดยเร็วก็จะทำให้ ผู้ประกันตนกว่า 10 ล้านคน รวมถึงแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในระบบประกันสังคมอีก 1 ล้านคน ต้องเสียสิทธิประโยชน์แน่นอน

ที่มา--เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 29 ต.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--