ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เดลินิวส์ - เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 พ.ย. นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานประกอบการที่จำหน่ายพลุและดอกไม้เพลิง บริเวณชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร และโดยรอบวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย นางผุสดี กล่าวว่า ขณะนี้ใกล้เทศกาลลอยกระทงซึ่งจะเป็นช่วงที่มีการจำหน่ายและเล่นดอกไม้เพลิง ประทัด และพลุกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอันตรายกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ สำหรับชุมชนป้อมมหากาฬและบริเวณวัดสระเกศพบว่ามีร้านจำหน่ายดอกไม้เพลิง 9-10 ร้าน ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีผู้จำหน่ายรายใดในพื้นที่ กทม.ได้รับอนุญาตในการจำหน่ายที่ถูกต้องจากเขตเลยแม้แต่รายเดียว ในส่วนของผู้ที่ผลิตปัจจุบันมีผู้ได้รับอนุญาต กทม.ในการผลิต ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประเภทการผลิต การสะสม การขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็นส่วนประกอบในการผลิตดอกไม้เพลิงเพียง 5 รายเท่านั้น ดังนั้นที่มีการจำหน่ายอยู่ในขณะนี้เป็นการจำหน่ายดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งตำรวจก็ได้พยายามจับกุมอยู่เสมอ โดยพบว่าร้านค้าส่วนใหญ่จะขายดอกไม้เพลิงในช่วงเทศกาลเท่านั้น

นางผุสดี กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของประชาชน กทม.ได้ประสานหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อช่วยดูแลตรวจตราความเรียบร้อยในสถานที่ที่จัดจำหน่ายโดยจะออกประกาศมาตรการต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย และจะดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืน ซึ่งในวันลอยกระทงก็จะตรวจเข้ม หากพบผู้ใดจำหน่ายหรือเล่นดอกไม้ไฟในที่ชุมชนก็จะให้ทุกเขตร่วมกันดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

อย่างไรก็ตามบทกำหนดโทษสำหรับผู้ผลิต สะสมและจำหน่ายดอกไม้เพลิงที่ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต มีกฎหมายที่อยู่ในการบังคับของตำรวจคือพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาทหรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่นจะมีโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วน กทม.จะควบคุมผู้จำหน่ายพลุดอกไม้ไฟ ต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 71 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 19 มาตรา 33 วรรคหนึ่งหรือมาตรา 34 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556