ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แนวหน้า - ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรม อนามัย เปิดเผยว่า ไขมันที่ใช้ทำครีมเทียมนั้นทำมาจากไขมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน ได้แก่ น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง ทำให้น้ำมันเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นกึ่งของแข็งหรือ ทำเป็นผงได้ เช่น มาร์การีนหรือเนยเทียม เนยขาว ครีมเทียม ไขมันที่เปลี่ยนไปนี้เรียกว่าไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันที่เกิดจากกระบวนการแปรรูปอาหาร โดยลักษณะพิเศษของไขมันทรานส์ในอุตสาหกรรม การผลิตอาหาร ไขมันทรานส์จะมีคุณสมบัติเป็นกึ่ง ของแข็ง ไม่เหม็นหืนง่าย ไม่เป็นไข ทนความร้อนสูง และราคาถูก ทำให้ผู้ประกอบการอาหารฟาสต์ฟู้ด และเบเกอรี่ นิยมนำมาใช้ในกระบวนการผลิตอาหาร เพื่อลดต้นทุนการผลิตรวมทั้งการผลิตครีมเทียมทั้งชนิดเหลวและชนิดผงด้วย นอกจากนี้ ไขมันทรานส์ยังแฝงมากับอาหารชนิดอื่น เช่น ไก่ทอด มันฝรั่งทอด รวมถึงอาหารที่ระบุว่ามีการเติมไฮโดรเจนลงในไขมัน เมื่อกินไขมันทรานส์เข้าไปสะสมในร่างกายมากเกินไปทำให้น้ำหนักและ ไขมันส่วนเกินเพิ่มมากขึ้น ตับทำงานผิดปกติ และ มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวาน ความดัน โลหิตสูง หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดหัวใจตีบ และไขมันอุดตันในเส้นเลือด

การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อหลีกเลี่ยง ไขมันทรานส์ที่อยู่ในเนยเทียม เนยขาว ควรอ่าน ฉลากเพื่อดูปริมาณไขมันทั้งหมด ไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์ เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไขมันน้อยกว่าและระบุชนิดไขมันทรานส์เป็นศูนย์ อ่านส่วนประกอบ ข้างบรรจุผลิตภัณฑ์ของอาหารดูว่ามีไขมันทรานส์ หรือข้อความ partially hydrogenated oil หรือ hydrogenated vegetable oil ที่หมายถึงน้ำมัน แปรรูปจากการเติมไฮโดรเจนบางส่วน จำกัดปริมาณการกินขนมอบกรอบ เบเกอรี่ มาร์การีนชนิดแท่ง ฟาสต์ฟู้ด เฟรนช์ฟรายส์ ที่มีผลต่อการเพิ่มปริมาณไขมันและน้ำหนักตัว

"บางครั้งแม้ฉลากจะระบุว่าไร้ไขมันทรานส์ เพื่อทำให้กินอาหารนั้นเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า อาหารนั้นจะมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้น ทางที่ดีควรเลือกกินอาหารจากธรรมชาติที่ไม่ผ่านกระบวนการหรืออาหารที่เป็นชนิดที่เลียนแบบธรรมชาติเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็น ประโยชน์แก่ร่างกายสูงสุด ไม่ใช่เพียงแต่รสชาติ หรือรสสัมผัสที่ถูกลิ้นซึ่งส่งผลเสียกับร่างกาย ควรเลือกกินอาหารที่ไม่หวาน มัน เค็มจนเกินไป เน้นอาหารประเภทผักและผลไม้สด และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเผาผลาญพลังงานและ สร้างสุขภาพดีให้กับตนเอง"

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า  วันที่ 6 มกราคม 2556