ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายแร่ใยหิน เตรียมบุก สธ.อีกรอบ ทวงผลการศึกษาแร่ใยหิน หลัง สธ.ทำเฉย ฉะอย่าหมกเม็ดรายงานแต่ความเห็นตัวเองเข้า ครม.แก้รายงานการประชุมไม่ห่วงผลกระทบสุขภาพประชาชนจากแร่ใยหิน

เวบไซต์แมเนเจอร์ออนไลน์รายงานว่า วันนี้ (8 ม.ค.) นางสมบุญ สีคำดอกแค สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทำงานและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากกรณีเครือข่ายต่อต้านการใช้แร่ใยหินในประเทศไทย ได้เดินทางมากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อเรียกร้องให้มีการเปิดผลการศึกษาการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า จะมีการนำข้อสรุปเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ใช้แร่ใยหินต่อไปเนื่องจากไม่มีอันตรายต่อสุขภาพที่ชัดเจนนั้นว่า ล่าสุด สธ.ให้เครือข่ายฯ ยื่นหนังสือเพื่อขอดูบันทึกการประชุม และผลการศึกษาฯ ซึ่งได้มีการยื่นหนังสือไปตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมาจนปัจจุบันยังไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด ทำให้เครือข่ายฯ จะเดินทางมาทวงถามและเรียกร้องให้ สธ.คำนึงถึงสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรก 
       
“ความจริงผลการประชุมควรเปิดเผยได้ก่อนหน้านี้นานแล้ว เพราะการประชุมครั้งสุดท้ายสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. 56 แต่กลับไม่มีการเปิดเผยให้รับทราบ อีกทั้งพบว่ามีความผิดปกติ คือ มีข้อกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงบันทึกการประชุม ทำให้มีคณะกรรมการลาออกจากคณะทำงานศึกษาฯ และไม่ลงนามในการรับรองรายงานการประชุมอีกด้วย ซึ่ง สธ.ควรทำให้เรื่องนี้เกิดความชัดเจน ว่า ความจริงแล้วผลการศึกษาออกมาว่าอย่างไร ที่อ้างว่า มีหนังสือตอบกลับจาก องค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าการใช้แร่ใยหินไม่เกิดอันตรายต่อสุขภาพนั้น จริงหรือไม่ และบันทึกที่ประชุมมีความเห็นอย่างไรซึ่งทั้งหมดเป็นความโปร่งใสที่ควรเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ” นางสมบุญ กล่าว
       
นางสมบุญ กล่าวต่อว่า เพื่อให้เรื่องดังกล่าวเป็นไปด้วยความโปร่งใสและเพื่อประโยชน์ของสุขภาพประชาชน ในวันที่ 10 ม.ค.57 เวลา 9.00 น.เครือข่ายฯ จะไปรวมตัวกันประมาณ 100 คน เพื่อให้ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข และ นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัด สธ.เปิดเผยผลการศึกษาและรายงานการประชุม หากไม่มีการเปิดเผยรายงานการศึกษาไม่ยกเลิกใยหิน เครือข่ายฯ จะกดดันไปเรื่อยๆ และจะพยายามหารายงานการประชุมมาเปิดเผย หาก สธ.ปิดบังความจริงและนำเสนอแต่สิ่งที่ตัวเองอยาก ได้อีกทั้งจะนำเรื่องดังกล่าวไปเสนอเรื่องยกเลิกใยหินในสภาประชาชน วันที่ 30 ม.ค.57 ที่เวที กกปส.เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ด้วย