ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคตั้งเป้ากำจัดโรคที่มีแนวโน้มลดลง ป้องกันได้ด้วยวัคซีน เฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่นานาชาติ และโรคติดต่อข้ามพรมแดน หวังยุติเอดส์ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ย้ำประชาชนอย่าตื่นอีโบลา 

20 ก.ย.57 นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวเนื่องในโอกาสคล้ายวันสถาปนากรมควมคุมโรค ว่า ทิศทางการดำเนินงานในอนาคต มี 4 ประเด็น คือ 1. สร้างระบบเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะโรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดในระดับนานาชาติ เช่น อีโบลา ในทวีปแอฟริกา เป็นต้น นอกจากนี้ ในปี 2558 ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งจะมีการเคลื่อนย้ายประชากร สัตว์ พืช และอาหาร ทำให้คนไทยมีความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อมากขึ้น โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคติดต่อข้ามพรมแดน จึงต้องเตรียมความพร้อม
       
2. การกำจัดและกวาดล้างโรคที่มีแนวโน้มลดลง หรือ โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน เช่น คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โรคหัด เป็นต้น 3. ยุติปัญหาเอดส์ และ 4. การเร่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน หัวใจ ความดัน บุหรี่ เหล้า เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายการทำงาน นอกจากนี้ ยังต้องพัฒนาบุคลากรให้เป็นคนเก่งและมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชน
       
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องอีโบลานั้น ประชาชนไม่ควรตระหนกกลัว ขอให้ใช้ชีวิตตามปกติ และติดตามข่าวความคืบหน้าจากกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ยืนยันว่า การติดต่อจะเกิดขึ้นต่อเมื่อสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้สูงและอาการอื่นๆ โดยเชื้อจะอยู่ในเลือด หรือสารคัดหลั่งที่ออกมาจากผู้ป่วย รวมทั้งอาเจียน การสัมผัสอย่างผิวเผิน เช่น บ้านใกล้กัน เดินสวนกัน กินข้าวร้านเดียวกัน หรือร่วมโต๊ะเดียวกันจะไม่ติดโรค ขอให้หมั่นล้างมือหลังสัมผัสสิ่งของ หรือออกจากห้องน้ำ
       
“กระทรวงมีการประเมินความเสี่ยงเป็นระยะๆ และเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก โดยเน้นหนักที่การเฝ้าระวังผู้เดินทางมาจากพื้นที่ระบาด และติดตามอาการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 21 วัน หลังจากออกจากประเทศที่มีการระบาด หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว