ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข แนะนำเมนูเด็ด แกงส้มดอกแค แกงขี้เหล็ก แกงยอดมะขาม อาหารรสเปรี้ยวอมขมจากผักพื้นบ้านตามฤดูกาล เพิ่มความอบอุ่นและวิตามินซี พร้อมแนะยึดหลักโภชนบัญญัติ 9 ประการ สร้างสุขภาพดีรับหน้าหนาว

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการเลือกรับประทานอาหารในช่วงหน้าหนาว ว่า ปัญหาสุขภาพที่มากับหน้าหนาวมักมีผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย คือ ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และผิวหนัง ประชาชนจึงควรรับประทานอาหารที่เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย และเป็นอาหารที่ร้อนและปรุงสุกใหม่ๆ หลีกเลี่ยงอาหารเปรี้ยวจัด มันจัด แต่ควรเลือกอาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือเปรี้ยวอมขมเล็กน้อยที่เป็นผักพื้นบ้านตามฤดูกาลและหาได้ง่ายในช่วงหน้าหนาว เช่น กระเจี๊ยบ ดอกแค ขี้เหล็ก ยอดมะขาม เพราะมีวิตามินซีช่วยเสริมภูมิคุ้มกันต้านโรคหวัด และเน้นเมนูอาหารที่มีเครื่องเทศที่มีรสเผ็ดร้อน เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้ เช่น แกงเลียง แกงส้มดอกแค แกงป่า แกงขี้เหล็ก แกงเผ็ด แกงคั่ว เป็นต้น ซึ่งการรับประทานอาหารควรคำนึงถึงสุขภาพเป็นหลัก รวมทั้งสารอาหารและปริมาณครบถ้วน เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะกลุ่มคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมันจะให้พลังงานและกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งนี้ ควรเลือกรับประทานไขมันให้หลากหลายชนิดในปริมาณที่พอเหมาะ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก หมุนเวียนสลับกันไป ลดหรือหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ และเครื่องในสัตว์ หากจะรับประทานอาหารจำพวกอาหารทอดหรือกะทิ อาจทำได้โดยมีอาหารที่ใช้ไขมันในการประกอบอาหาร 1 รายการต่อมื้อ เช่น ไข่เจียวคู่กับแกงส้ม ปลาทอดคู่กับแกงเลียง และควรรับประทานอาหารร่วมกับผักสดอย่างน้อยมื้อละ 2 ทัพพี

นพ.พรเทพ ศิริวนารังวสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การรับประทานอาหารให้สุขภาพดีอย่างยั่งยืนนั้นมีวิธีง่ายๆ โดยยึดตามหลักโภชนบัญญัติ 9 ประการ ได้แก่ 1) กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควบคุมน้ำหนักตัว 2) กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ 3) กินพืชผักให้มากและกินผลไม้เป็นประจำ 4) กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ 5) ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย 6) กินอาหารที่มีแต่ไขมันพอควร 7) หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด 8) กินอาหารที่สะอาด ปราศจากการปนเปื้อน และ 9) งดหรือลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำเปล่าอุ่นๆ เป็นประจำ วันละ 8-10 แก้ว เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง

“อากาศที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลจะทำให้ผู้ที่ร่างกายไม่แข็งแรงเกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย ส่งผลต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่น ระบบการย่อยอาหาร ผิวหนังแห้งแตกและคัน ดังนั้น ประชาชนจึงควรเอาใจใส่ดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ลดอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม และออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ 5 วัน วันละอย่างน้อย 30 นาที ผ่อนคลายความเครียดคิดบวกอยู่เสมอรวมทั้งทำจิตใจให้แจ่มใส เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทุกฤดูกาล” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว