กลุ่มพลังแพทย์ ประกาศ ขอโอกาสทำงานพัฒนาวิชาชีพแพทย์ กระตุ้นหมอให้ใช้สิทธิ์เพิ่ม ยันจุดยืนคัดค้าน “ร่าง พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข” หนุนขยาย ม.41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พร้อมเดินหน้าพัฒนามาตรฐานการรักษา ยกระดับคุณภาพชีวิตหมอ
11 ธ.ค.57 พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา แกนนำกลุ่มพลังแพทย์ กล่าวถึงนโยบายของกลุ่มพลังแพทย์ ในการลงรับสมัครเลือกตั้งกรรมการแพทยสภาว่า นโยบายสำคัญของกลุ่มพลังแพทย์คือการเปลี่ยนแปลงการทำงานของแพทยสภา เน้นการทำงานที่โปร่งใสและตรวจสอบได้โดยสมาชิกแพทย์และประชาชนอย่างเหมาะสม พร้อมกันนี้ยังมีจุดยืนสำคัญคือการผลักดันให้เกิดการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานในการรักษาที่จะช่วยลดปัญหาในการรักษาและความขัดแย้งระหว่างแพทย์และผู้ป่วยลงได้ได้ เนื่องจากปัจจุบันเห็นได้ชัดเจนว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นสาเหตุสำคัญเกิดจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้แพทย์ต้องทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะแพทย์ในระบบกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งที่ผ่านมาเกิดภาวะขาดแคลนอย่างหนัก ทำให้แพทย์ต้องมีภาระการรักษาที่เพิ่มมากขึ้น ทำงานตลอดทั้งวัน จึงส่งผลต่อการรักษาผู้ป่วย ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาที่นอกจากต้องมีจำนวนแพทย์ที่เพียงพอแล้ว ยังต้องมีทรัพยากรที่เพียงพอด้วย
พญ.เชิดชู กล่าวว่า ส่วนที่ขณะนี้มีความพยายามในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการทางสาธารณสุข ทางกลุ่มพลังแพทย์มีนโยบายที่ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะประเด็นที่ระบุว่าให้เป็นการชดเชยที่ไม่ต้องมีการพิสูจน์ถูกผิด เพราะในข้อเท็จจริงปัญหานี้จะต้องไม่มีการพิสูจน์ถูกผิด เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นในการรักษาและภาวะแทรกซ้อนอาจเกิดจากผู้ป่วยเอง เช่น การแพ้ยา อย่างกรณีของนางดอกรัก เพชรประเสริฐ ที่มีภาวะแพ้ยารุนแรงถึงขั้นตาบอด ซึ่งแม้แต่ตัวผู้ป่วยเองก็ไม่ทราบ ไม่ได้มาจากการรักษาของแพทย์ แต่การระบุว่าชดเชยไม่มีการพิสูจน์ถูกผิด นั่นอาจทำให้เข้าใจได้ว่าเกิดจากการรักษาของแพทย์ได้ ดังนั้นจึงเห็นควรให้มีการเดินหน้าขยาย ม. 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 มากกว่า
“ม. 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นการคุ้มครองและชดเชยเฉพาะผู้มีสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 48 ล้านคน ซึ่งผู้มีสิทธิ์ในระบบนี้ต้องยอมรับว่ามีทั้งคนจนและคนไม่จน คนที่มีเงิน ดังนั้นแม้แต่คนที่มีเงินยังได้รับการคุ้มครอง ดังนั้นจึงควรขยายไปยังผู้มีสิทธิในระบบประกันสังคมที่เป็นแรงงานและข้าราชการที่มีเงินเดือนน้อย” แกนนำกลุ่มพลังแพทย์ กล่าว
พญ.เชิดชู กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการดำเนินนโยบายระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แม้ว่าจะส่งผลให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลเพิ่มมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้แพทย์มีภาระงานเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้เฉพาะบริการผู้ป่วยนอกเพิ่มเป็น 170-200 ล้านครั้งต่อปีแล้ว แม้แต่นโยบายโอบามาแคร์ ยังเน้นให้ประชาชนไปซื้อประกันสุขภาพกับเอกชน โดยเน้นให้สิทธิ์รักษาพยาบาลเฉพาะคนจน ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป เป็นต้น ต่างจากประเทศไทยที่ให้สิทธิรักษาพยาบาลคนทั้งประเทศ แต่ทั้งนี้สิ่งที่ต้องดำเนินการคือการปรับมาตรฐานการทำงานของแพทย์ ที่นอกจากทำให้แพทย์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการรักษา โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์ที่ใช้ทุนในต่างจังหวัด ซึ่งในความเป็นจริงแพทย์เหล่านี้ต้องออกไปทำงานยังโรงพยาบาลที่มีแพทย์พี่เลี้ยง แต่ด้วยปัญหาขาดแคลนแพทย์ทำให้กระทรวงสาธารณสุขต้องส่งไปทำงานที่โรงพยาบาลชุมชนแทน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ต้องแก้ไข
นอกจากนี้กลุ่มพลังแพทย์ยังมีนโยบายส่งเสริมการเรียนต่อของแพทย์เพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพ และทางการแพทย์ของไทย รวมถึงการสนับสนุนด้านการวิจัยใหม่ๆ อย่างการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ ซึ่งที่ผ่านมาในต่างประเทศเป็นที่ยอมรับกันแล้ว แต่บ้านเรายังไม่รับรอง เช่นเดียวกับการสนับสนุนความก้าวหน้าวิชาชีพแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป หรือแม้แต่โรงพยาบาลชุมชน
“กลุ่มพลังแพทย์ลงสมัครเพื่อมุ่งทำงานพัฒนาเพื่อวิชาชีพแพทย์ ส่วนจะได้รับเลือกหรือไม่นั้น ต้องขอโอกาสในการทำงาน และขอเรียกร้องให้แพทย์ซึ่งมีอยู่กว่า 40,000 คนให้ออกมาใช้สิทธิ์ เนื่องจากที่ผ่านมาแพทย์ใช้สิทธิ์ลงคะแนนน้อยมากเพียงแค่ร้อยละ 25 เท่านั้น จึงขอปลุกกระแสเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง” แกนนำกลุ่มพลังแพทย์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจาะลึกเลือกตั้งแพทยสภา (3) นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ แพทยสภาภิวัฒน์ “ประกาศปฏิรูปแพทยสภา”
เจาะลึกเลือกตั้งแพทยสภา (5) หนุน ร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม วาระนายกแพทยสภาไม่เกิน 2 สมัย
เจาะลึกเลือกตั้งแพทยสภา (จบ) เชื่อเลือกตั้งกก.แพทยสภาครั้งนี้ เป็นโอกาสปฏิรูปแก้ขัดแย้งได้
- 54 views