ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระดมทีมวิศวกร เข้าฟื้นฟูโรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร และโรงพยาบาลชะอวด จ.นครศรีธรรมราช หลังถูกน้ำท่วมสูง โดยที่โรงพยาบาลหลังสวนถือว่าวิกฤติสุดในรอบ 30 ปี ได้รับความเสียหายหลายจุดบริการ อาทิบริการแพทย์แผนไทย ห้องทันตกรรม  ระบบน้ำประปา คลังเก็บยาเวชภัณฑ์ หน่วยไตเทียม แต่ทั้ง 2 แห่งสามารถเปิดบริการประชาชนได้  โดยเร่งฟื้นฟูให้เสร็จสมบูรณ์สามารถเปิดบริการครบทุกหน่วยภายในวันที่ 9 ม.ค.นี้

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2560 นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางไปติดตามการฟื้นฟูโรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งถูกน้ำท่วมอาคารบริการระดับสูงกว่า 1 เมตรว่า สบส.ได้ระดมทีมวิศวกรจากส่วนกลาง สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช และเขตอื่นๆ รวม 9 ทีม ลงมาช่วยฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคของโรงพยาบาล โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วน คือระบบประปาที่ใช้งานในอาคารบริการต่างๆ ซึ่งได้รับความเสียหาย มอเตอร์ปั้มน้ำไม่สามารถใช้การได้ เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถเปิดให้บริการผู้ป่วยได้ตามปกติก่อน ซึ่งขณะนี้ทีมวิศวกรได้แก้ไขแล้วเสร็จ สามารถใช้การได้แล้ว สำหรับจุดอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายได้แก่ ห้องบริการแพทย์แผนไทย ห้องทันตกรรม  อาคารคลังยาเวชภัณฑ์ หน่วยไตเทียม อาคารผู้ป่วยนอกหลังเก่า หอผู้ป่วยชาย ซึ่งเป็นจุดบริการที่อยู่ในอาคารชั้นล่าง จะได้เร่งดำเนินการตรวจสอบฟื้นฟูต่อไปโดยเร็ว    

นพ.ประภาส กล่าวต่อว่า ในการป้องกันน้ำท่วมโรงพยาบาลหลังสวนในระยะยาว สบส.ได้มอบหมายให้กองแบบแผนซึ่งดูแลด้านการออกแบบอาคารสถานที่ของโรงพยาบาล ดำเนินการออกแบบอาคารของโรงพยาบาลหลังสวนเป็นการเฉพาะ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด120 เตียง โดยเฉพาะคลังยา ซึ่งประสบภัยน้ำท่วมซ้ำซาก และระบบปั่นไฟสำรอง เพื่อป้องกันน้ำท่วมอย่างถาวร สามารถให้บริการผู้ป่วยในพื้นที่และข้างเคียงได้อย่างเต็มศักยภาพ ขณะนี้มีผู้ป่วยพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 104 คน เป็นผู้ป่วยหนัก 8 คน ที่เหลือเป็นผู้ป่วยทั่วไป   

สำหรับที่โรงพยาบาลชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช อาคารบริการถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ได้ส่งทีมวิศวกรเข้าตรวจประเมิน พบว่าได้รับความเสียหาย 4 จุดได้แก่ ระบบปั่นไฟสำรอง หม้อนึ่งฆ่าเชื้อ 1 ตัว ระบบเครื่องปรับอากาศโรงพยาบาล และเครื่องมอเตอร์และปั้มลมหน่วยทันตกรรมจำนวน 6 ยูนิต โดยได้เร่งให้ทีมวิศวกรดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยและฟื้นฟูโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งให้แล้วเสร็จ สามารถเปิดให้บริการสมบูรณ์แบบทุกจุดบริการภายในวันจันทร์ที่ 9 มกราคมนี้     

ด้าน นพ.ศักดิ์สิทธิ์ มหารัตนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหลังสวน กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลได้วางแผนการป้องกันน้ำท่วมไว้อย่างเต็มที่ โดยขุดลอกคูคลอง ทำกำแพงป้องกันน้ำเข้าโรงพยาบาล และได้ขนย้ายเครื่องมือแพทย์ คลังยา เวชภัณฑ์ไว้ที่สูง แต่ระดับน้ำปีนี้เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ และถือว่าวิกฤติที่สุดในรอบ 30 ปี แต่ถึงแม้ว่าโรงพยาบาลจะประสบวิกฤติเป็นเวลา 3 วันก็ตาม แต่สามารถให้การดูแลผู้ป่วยทั้งผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยทั่วไปได้เป็นอย่างดี เปิดให้บริการผู้ป่วยทั้งผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยฉุกเฉินได้เต็มศักยภาพ เนื่องจากอาคารส่วนใหญ่อยู่สูงกว่าระดับน้ำ สำหรับเรื่องคลังยานั้นทางโรงพยาบาลเป็นคลังสำรองให้โรงพยาบาลในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ อำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก และอำเภอละแม โดยได้สำรองสามารถใช้การได้ 3 เดือน ซึ่งยาเวชภัณฑ์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

ทั้งนี้โรงพยาบาลได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานทั้งกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เป็นอย่างดี