ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรรมการ สปสช.ภาคประชาชนท้วงสำนักงบฯ ควรตัดทอนงบบัตรทองตามลำดับความสำคัญตามแต่ละโครงการที่บอร์ด สปสช.จัดไว้ ย้ำถ้าเงินไม่พอต้องตัดโครงการใหม่ก่อนเพราะส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยกว่า หากตัดงบตามใจชอบจะกระทบกับบริการทั้งระบบ

น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล

น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ตัวแทนภาคประชาชน) กล่าวถึงประเด็นการพิจารณางบประมาณบัตรทองปีงบประมาณ 2561 ของสำนักงบประมาณว่า หลังจากมีเสียงท้วงติงเรื่องการตัดงบบัตรทอง 1.3 หมื่นล้านบาทและต่อมาเมื่อมีการประชุมหารือกันระหว่างสำนักงบประมาณและสำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) ในเรื่องดังกล่าว ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่สำนักงบประมาณรับฟัง สปสช. โดยจะเพิ่มงบสำหรับขยายสิทธิประโยชน์ให้

อย่างไรก็ดี ในฐานะกรรมการหลักประกันสุขภาพ รู้สึกเป็นห่วงในประเด็นนี้ เนื่องจากมติที่ประชุมบอร์ด สปสช. เพื่อพิจารณางบประมาณในเดือน ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา ได้จัดลำดับความสำคัญของงบประมาณในแต่ละโครงการไว้แล้ว จึงอยากให้สำนักงบประมาณพิจารณาตัดลดงบประมาณตามมติของบอร์ด สปสช.เป็นหลัก

“เรารู้ว่างบประมาณแผ่นดินไม่ได้มีมากพอที่จะขอเท่าไหร่ก็ได้ เพราะฉะนั้น ที่ประชุมบอร์ด สปสช.จึงจัดลำดับความสำคัญว่าถ้างบประมาณแผ่นดินไม่พอ จะมีงบอะไรที่สามารถตัดทอนได้บ้าง ซึ่งหลักการคือตัดทอนงบโครงการใหม่ๆ ส่วนโครงการเก่ายังต้องดูแลผู้ป่วยอยู่ ไปลดทอนไม่ได้” น.ส.กรรณิการ์ กล่าว

ทั้งนี้ บอร์ด สปสช.มติว่าหากมีข้อจำกัดประมาณประเทศ หลักเกณฑ์ในการจัดลำดับความสำคัญขอให้พิจารณาตัดทอนงบประมาณรายการใหม่ ในส่วนของงบเหมาจ่ายรายหัว อาทิเช่น มะเร็งลำไส้ วัคซีนมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากเป็นโครงการใหม่ บริการจ่ายตามคุณภาพบริการ และงบประมาณนอกงบเหมาจ่ายก็สามารถตัดเรื่องแพทย์ประจำครอบครัว เป็นต้น

นอกจากนี้ หากตัดลดงบประมาณโครงการใหม่แล้วเงินยังไม่พอ บอร์ดสปสช.ยังพิจารณาโครงการเดิมที่ยังสามารถตัดทอนงบได้ เช่น  งบค่าบริการที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุน บริการกรณีเฉพาะ งบฟื้นฟูสมรรถภาพ งบบริการแพทย์แผนไทย เป็นต้น

“ไม่ใช่ว่าสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ไม่มีความสำคัญ แต่ว่าถ้าเงินงบประมาณมีจำกัด การยังไม่เพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ ผลกระทบไม่มากเท่ากับไปตัดสิทธิประโยชน์เดิมลง เพราะถ้างบทั้งคนไข้ในคนไข้นอกถูกตัดทอน มันจะมีผลกระทบกระเทือนทั้งระบบ นี่เป็นสาเหตุสำคัญว่าทำไมบอร์ด สปสช.ถึงต้องจัดลำดับความสำคัญให้ ซึ่งก็อย่างที่บอกว่าคุณต้องคำนึงถึงบริการเก่าก่อน ไม่ใช่บริการเก่าจะไปตัดเขาแต่จะมาเติมบริการใหม่ให้”

น.ส.กรรณิการ์ ย้ำว่า การพิจารณาเรียงลำดับความสำคัญดังกล่าว ได้ผ่านการพิจารณาอย่างเข้มข้นและรอบด้านแล้ว ไม่ได้จินตนาการเอาเอง ดังนั้น ขอให้ขอให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามมติบอร์ด สปสช.เป็นสำคัญ อย่าไปตัดอย่างที่นึกอยากจะตัด อย่าไปเพิ่มอย่างที่นึกจะเพิ่ม เพราะเรื่องระบบสุขภาพไม่ใช่นึกอยากจะตัดตรงไหนก็ตัดได้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

งบบัตรทอง ปี 61 จ่อถูกหั่นกว่า 1.3 หมื่นล้าน ‘หมอปิยะสกล’ เตรียมหารือ ‘นายกฯ’ แก้ปัญหาด่วน

สปสช.เฝ้าระวังงบกองทุนบัตรทอง หลังสำนักงบฯ ปรับเพิ่ม 500 ล้านบาท