ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แจงชัด รื้อคดี “พยาบาลเจาะเลือด” สภาเทคนิคการแพทย์ไม่เกี่ยว เป็นเรื่อง สสจ.นครปฐม หารืออัยการจังหวัด รับเคยทำหนังสือโต้แย้งคำให้การนายกสภาเทคนิคบิดเบือน และตอบข้อหารือ สบส. การเจาะเลือดเป็นการประกอบวิชาชีพในฐานะองค์กรวิชาชีพเท่านั้น หนุน “สภาการพยาบาล” ปรับข้อบังคับเปิดช่องพยาบาลเจาะเลือดได้อย่างถูกต้อง หลังถูก สธ.เบรก เหตุเขียนเกินกว่ากรอบวิชาชีพ พร้อมฝากกรณีที่เกิดขึ้นควรดูประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่ดูวิชาชีพเป็นหลัก หวั่นประชาชนเดือดร้อน

ทนพ.สมชัย เสริมเจิดอนันต์ กรรมการสภาเทคนิคการแพทย์ และประธานอนุกรรมการกฎหมาย สภาเทคนิคการแพทย์ กล่าวว่า กรณีพยาบาลเจาะเลือดตรวจสุขภาพที่จังหวัดนครปฐมที่กลายเป็นกระแสบานปลายในสังคมออนไลน์ขณะนี้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม (สสจ.นครปฐม) ได้ดำเนินคดีกับหน่วยตรวจสุขภาพนอกสถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต และในหน่วยนั้นมีพยาบาลไปเจาะเลือดจึงมีการแจ้งข้อหาประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาต ประเด็นในการสอบสวนจึงมุ่งว่า การเจาะเลือดเป็นการประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์หรือไม่ ถ้าเป็นแล้วมีกฎหมายอะไรที่ยกเว้นให้พยาบาลทำหรือไม่ ซึ่งในประเด็นนี้ผู้แทนกองนิติการ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ข้อมูลทางกฎหมายว่า การเจาะเลือดลักษณะนี้ถือเป็นการประกอบวิชาชีพ หากจะยกเว้นให้ทำจะต้องมีการออกข้อบังคับ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการออกข้อบังคับนี้

ขณะที่ด้านนายกสภาเทคนิคการแพทย์ให้การว่า การเจาะเลือดเป็นการประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ที่ไม่สมบูรณ์ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิชาชีพเท่านั้น การพูดแบบนี้เท่ากับว่าใครก็เจาะเลือดได้ ทั้งยังระบุว่าได้มีการออกข้อบังคับยกเว้นแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำคำสั่งฟ้องส่งไปที่อัยการ แต่คดีนี้อัยการสั่งไม่ฟ้องโดยยึดคำให้การของนายกสภาเทคนิคการแพทย์ ต้องย้ำว่าคดีนี้ยังไม่ถึงศาล

จากคำให้การของนายกสภาเทคนิคการแพทย์ที่ให้การต่อพนักงานสอบสวน เมื่อกรรมการสภาเทคนิคการแพทย์ทราบและเห็นว่าคำให้การดังกล่าวไม่ถูกต้อง จึงได้ทำเรื่องโต้ไปที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ว่าคำให้การดังกล่าวไม่สอดคล้องกับ พ.ร.บ.วิชาชีพเทคนิคการแพทย์ และยังไม่มีการออกข้อบังคับสภาการพยาบาลที่ให้พยาบาลเจาะเลือดได้ มีเพียงระเบียบกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่อ้างอิงตาม พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2539 ที่ให้ทำใด้ในภาครัฐ โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตอบกลับว่าเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจ เรื่องก็จบไปแล้ว

ส่วนที่เกิดประเด็นนี้ขึ้นมาอีกครั้งนั้น เข้าใจว่าภายหลังจากที่อัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้แล้ว ทางผู้รักษากฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่ทำงานใน สสจ.ทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเภสัชกรและรวมตัวเป็นชมรมเภสัชกรสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้ทำหนังสือเพื่อขอความชัดเจนไปที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ว่าการเจาะเลือดเป็นการประกอบวิชาชีพหรือไม่ เพื่อที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้อง และ สบส.ได้หารือมายังสภาเทคนิคการแพทย์ให้ตอบข้อหารือแทน โดยเราได้ตอบไปว่าใช่ เป็นการประกอบวิชาชีพ โดยเป็นการทำหน้าที่ในฐานะองค์กรที่ดูแลกฎหมายวิชาชีพ สิ่งที่สภาเทคนิคการแพทย์ทำมีเพียงแค่นี้ ยืนยันว่าไม่ได้มีการไปขอรื้อคดีหรือฟ้องร้องใครแต่อย่างใด และกรณีการส่งหนังสือหารือไปยังอัยการเพื่อรื้อคดีก็เป็นเรื่อง สสจ.นครปฐม โดยสภาเทคนิคการแพทย์ยังไม่เคยมีหนังสือไปที่ สสจ.นครปฐมด้วยซ้ำ เพราะเรื่องนี้สภาเทคนิคการแพทย์ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง

“ถามว่าสภาเทคนิคการแพทย์ไปฟ้องใครหรือไม่ ไม่มี เราเพียงแต่ทำเรื่องโต้แย้งข้อกฎหมายในคำให้การที่บิดเบือนกฎหมายไปที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เท่านั้น ไม่มีการฟ้องเองและเรื่องนี้ได้เงียบไปแล้ว และเพียงแต่ตอบข้อหารือการเจาะเลือดตามที่ สบส.หารือมาเท่านั้น” ประธานอนุกรรมการกฎหมาย สภาเทคนิคการแพทย์ กล่าว

ส่วนที่มีการระบุว่า การจำกัดให้พยาบาลเจาะเลือดได้เฉพาะในบริการภาครัฐนั้น ทนพ.สมชัย กล่าวว่า เป็นไปตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ที่อ้างอิงตาม พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ปี 2539 ซึ่งการที่เทคนิคการแพทย์สามารถเจาะเลือดได้โดยครอบคลุมเอกชน เนื่องจาก พ.ร.บ.วิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ได้เปิดไว้ เพราะเป็นกฎหมายที่ใหม่กว่า ขณะที่ พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ยังไม่ได้มีการแก้ไข ก่อนหน้านี้สภาการพยาบาลได้เคยขอออกข้อบังคับให้พยาบาลเจาะเลือดได้ รวมถึงในเอกชน แต่เนื่องจากร่างเนื้อหาได้เขียนเกินกรอบวิชาชีพพยาบาล ทาง สธ.จึงยับยั้งการออกข้อบังคับนี้

“ในการออกข้อบังคับเพื่อให้พยาบาเจาะเลือดได้ ครอบคลุมถึงเอกชน สภาเทคนิคการแพทย์ไม่เคยมีข้อขัดแย้งหรือคัดค้านการออกข้อบังคับอันใด และสภาการพยาบาลก็ไม่เคยมีการถามความเห็นมายังสภาเทคนิคการแพทย์ เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด เป็นเรื่องสภาการพยาบาลกับ สธ. ส่วนกรณีการรื้อคดีพยาบาลเจาะเลือดที่นครปฐมก็เป็นเรื่องสภาการพยาบาล กับ สสจ.นครปฐม สภาเทคนิคการแพทย์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดเลย” ประธานอนุกรรมการกฎหมายสภาเทคนิคการแพทย์ กล่าวและว่า ส่วนที่มีการโยงไปถึงผลประโยชน์ทับซ้อนในการเปิดแลปเอกชน และกีดกันพยาบาลในการหารายได้นั้น ประเด็นนี้ไม่ทราบ แต่ข้อเท็จจริงเรามีเพียงแค่นี้ และงงกับกระแสที่เกิดขึ้นว่ามาได้อย่างไร

ทนพ.สมชัย กล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสภาเทคนิคการแพทย์ได้มีการหารือกัน โดยเราไม่ขัดข้องเลยเรื่องที่พยาบาลจะเจาะเลือด แต่ขอให้มีการออกกฎหมายรองรับให้เรียบร้อยจะได้ไม่มีปัญหาในเชิงปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติงานในที่นี้คือพยาบาลจะได้ทำงานได้ถูกต้อง และเรื่องนี้เราไม่อยากนำประชาชนผู้ใช้บริการมาเป็นเครื่องต่อรอง เพราะหากพยาบาลไม่เจาะเลือด คนเดือดร้อนไม่ใช่เทคนิคการแพทย์แต่เป็นประชาชน ดังนั้นเราควรต้องดูประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่วิชาชีพเป็นหลัก เป็นสิ่งที่สภาเทคนิคการแพทย์ขอฝากไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สภาเทคนิคการแพทย์ ยื่นรื้อฟ้องคดี พยาบาลนครปฐมเจาะเลือด หลังศาลสั่งไม่ฟ้อง

ส่อวุ่น หลัง สสจ.นครปฐม เตรียมรื้อคดี “จับพยาบาลเจาะเลือด” สบส.เชิญ 2 สภาหารือ 29 เม.ย.นี้