ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อภัยภูเบศร ชูไฮไลท์มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ 28 มิ.ย.-2 ก.ค.66  เผยแนวทางแพทย์แผนไทย ดูแลภาวะ “ลองโควิด19”  ทั้งสเปรย์ฟ้าทะลายโจร ยาต้มสูตรหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ผสมตัวยา “หนุมานประสานกาย”  และฤาษีดัดตน โยคะนวดบริหารปอด ช่วยระบบทางเดินหายใจ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงตับบำรุงปอด ในงานยังแจกสมุนไพร 5 ชนิด

 

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว   ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวถึงไฮไลท์ที่จะนำเสนอในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 20 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 2 กรกฏาคม 2566  ณ ฮอลล์ 11 - 12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ว่า ภายในงานจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเองสำหรับผู้ที่หายป่วยจากโควิด19 อาจมีอาการลองโควิด (Long COVID) ซึ่งเป็นอาการหลงเหลือหลังติดเชื้อ  เช่น ไอ ดังนั้น จึงสามารถใช้สเปรย์ฟ้าทะลายโจร หรือ อภัยเม้าท์สเปรย์ ที่มีการศึกษาพบว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดการไอ เจ็บคอได้

ทั้งนี้ มีงานวิจัยทางคลินิกอ้างอิงจากโครงการวิจัยการศึกษาประสิทธิภาพของการลดการอักเสบของยาพ่นสารสกัดฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ 60 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่ใช้สเปรย์ฟ้าทะลายโจร และใช้สเปรย์ต่างประเทศ พ่นครั้งละ 2 ปั๊ม วันละ 3 ครั้ง นาน 5 วันและประเมินโดยแพทย์เชี่ยวชาญด้านหูคอจมูก พบว่า ลดอาการไอ เจ็บคอ กลืนลำบากได้ไม่แตกต่างกัน  อาการเจ็บคอ และกลืนลำบากหายเร็วกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับยาพ่นคอสมุนไพรจากต่างประเทศ

“ดังนั้น การใช้สเปรย์ฟ้าทะลายโจรสามารถช่วยลดการไอจากลองโควิดได้ และในผู้ป่วยโควิดที่มีอาการไอ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน ซึ่งปริมาณที่ใช้ไม่ได้มากฉีดพ่นครั้งละ 2 ปั๊ม วันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 5 วันอาการก็จะเริ่มดีขึ้น หรือใช้ชามะขามป้อม นำมาชงจิบอุ่นๆ ก็ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้เช่นกัน  แต่ผู้ป่วยควรสังเกตอาการด้วยว่า หากใช้แล้วยังไม่ดีขึ้น พ่นสเปรย์ฟ้าทะลายโจรเกิน 5 วันยังไม่หาย ควรไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร หรืออาจมีภาวะของโรคอื่นร่วมด้วยหรือไม่” ภญ.ผกากรอง กล่าว

จริงๆ การดูแลภาวะลองโควิด ทางอภัยภูเบศรมีการศึกษาการใช้ยาร่วมด้วย เช่น การบำรุงปอดด้วยยาต้ม สูตรของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท โดยนำมาผสมกับสมุนไพร “หนุมานประสานกาย” ช่วยเรื่องบำรุงปอด และยังมีเรื่องการทำฤาษีดัดตน การนวด เนื่องจากคนไข้ที่มีปัญหาการหายใจไม่ดี อย่างลองโควิด ส่วนใหญ่เจอในคนไข้ที่มีปัญหาสุขภาพทางเดินหายใจมาก่อนที่จะติดเชื้อโควิด โดยจะมีวิธีการนวดแบบแพทย์แผนไทย เป็นการคลายกล้ามเนื้อบริเวณส่วนหน้าอก ซึ่งในงานมหกรรมฯ จะให้ความรู้สอนการนวดเบื้องต้น ไม่ต้องเดินทางมายังรพ.อภัยภูเบศร

นอกจากนี้ ภายใจงานมหกรรมสมุนไพรฯ อภัยภูเบศร ยังมีสมุนไพรที่น่าสนใจอื่นๆเพื่อช่วยเรื่องระบบทางเดินหายใจอีกด้วย...คือ “อภัย ลิฟเวล” ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีทั้ง “มะขามป้อมและขมิ้นชัน”  

โดยแพทย์แผนไทยประยุกต์ (พท.ป.)  เบญจวรรณ หมายมั่น หัวหน้าฝ่ายสื่อสารข้อมูล ศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ฯ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้ข้อมูลว่า งานครั้งนี้เน้นการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ โดยระบบภูมิคุ้มกันจะมีความเกี่ยวข้องกับอวัยวะภายใน อย่างตับ การดูแลตับจึงสำคัญ ล่าสุดอภัยภูเบศรจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวใหม่ คือ อภัย ลิฟเวล โดยผสมระหว่างสมุนไพรมะขามป้อม และขมิ้นชัน ซึ่งทั้งสองตัวเด่นในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ และมีฤทธิ์ช่วยชะลอวัย อีกทั้ง ยังบำรุงปอด บำรุงตับ ลดไขมันพอกตับได้ ซึ่งเป็นอีกแนวทางสำหรับคนที่อยู่ในพื้นที่มลภาวะสูง หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

พท.ป.เบญจวรรณ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันสถานการณ์เจ็บป่วยเรื้อรังสูงมาก ซึ่งการบำรุงตับ บำรุงปอด รวมไปถึงการต้านอนุมูลอิสระ จะเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพ แต่มีข้อระวังในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร เพราะยังไม่มีข้อมูลการศึกษาที่เพียงพอ กลุ่มท่อน้ำดีอุดตัน เพราะขมิ้นชันจะมีผลกระตุ้นน้ำดี คนที่กินยาละลายลิ่มเลือดวาร์ฟาริน คนที่มีค่าตับ และไตบกพร่อง ขอให้เลี่ยง ทั้งนี้ คนเป็นโรคตับไม่ควรกิน เนื่องจากหากค่าทำงานตับ ไตบกพร่องไม่ควรทาน ต้องระวัง แต่สำหรับคนทั่วไปก็สามารถรับประทานได้เป็นการเสริมอาหาร บำรุงร่างกายไปเรื่อยๆ แต่คนที่มีโรคเรื้อรัง โรคประจำตัวขอให้ปรึกษาแพทย์ก่อน หรือปรึกษาศูนย์ฯของอภัยภูเบศร โทร. 037-211-289 หรือเฟซบุ๊กโรงพยาบาลอภัยภูเบศร

อนึ่ง ภายในงานมหกรรมสมุนไพรฯ ทางอภัยภูเบศรยังแจกต้นกล้าสมุนไพร 5 ชนิดในแต่ละวันแตกต่างกันไป โดยภาพรวมแจก 300 ต้นทุกวัน  ดังนี้

*วันที่ 28 มิถุนายน แจกต้น “หนุมานประสานกาย” แก้ไอ ขับเสมหะ ขยายหลอดลม มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด

*วันที่  29 มิถุนายน  แจกต้น “คนทีสอ”   เป็นสมุนไพรเก่าแก่ที่ใช้มานาน ปลูกไว้เพื่อใช้เป็นยาแก้ปวดแก้อักเสบ และเป็นยาที่ใช้ในระบบทางเดินหายใจ หมอยาพื้นบ้านไทยมีการใช้คนทีสอ ซึ่งมีฤทธิ์ร้อนในการลดเสมหะ ทำให้หายใจโล่ง แก้ไอ แก้เจ็บคอ แก้หอบหืด ปัจจุบันยังพบว่าสาร Casticin ที่สกัดออกมายังลดการอักเสบของระบบทางเดินหายใจ ลดความไวของหลอดลมในการตอบสนองต่อสิ่งแพ้

*วันที่  30 มิถุนายน  แจกต้น “พฤกษ์”   ผักพื้นบ้านมีฤทธิ์ช่วยระบบทางเดินหายใจและใช้แก้อักเสบ ยาที่ต้มจากเปลือกไม้สามารถใช้เพื่อบรรเทาอาการหายใจลำบาก  

 *วันที่  1 กรกฎาคม  แจกต้น “ตาลคอม้า”   หมอยาพื้นบ้านทางภาคเหนือและหมอยากระเหรี่ยงใช้มากที่สุดในการเป็นยารักษาโรคระบบทางเดินหายใจ หวัด น้ำมูกไหล ปอดไม่ดี เป็นต้น

*วันที่ 2 กรกฎาคม  แจกต้น พริกกะเหรี่ยง ต้านหวัดดูแลระบบทางเดินหายใจ หมอยาพื้นบ้านมีการนำพริกมาเข้ายาแก้ไอ แก้หลอดลมอักเสบ ยาแก้หอบหืดมีหลายตำรับ ซึ่งมีการศึกษาทางเภสัชวิทยาพบว่าสาร Capsaicin ลดการคัดจมูก ฯลฯ

ทั้งนี้ หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ที่อภัยภูเบศ ผ่านทางเฟซบุ๊กหรือโทร. 037-211-289

 

 

ข่าวเกี่ยวข้อง :

-ชวนร่วมงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ” 28 มิ.ย.-2 ก.ค.66  แจกสมุนไพรดูแลทางเดินหายใจ -อภ.ชูผลิตภัณฑ์จากกัญชง