ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่าย เตรียมจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ ครั้งที่ 20 “สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย” วันที่ 28 มิ.ย. - 2 ก.ค.2566 ที่ฮอลล์ 11-12 อิมแพค เมืองทองธานี อภัยภูเบศรฯแจกต้นพันธุ์สมุนไพรที่ช่วยดูแลทางเดินหายใจ วันละ 1 ชนิด ชนิดละ 300 ต้น  ส่วน อภ.ชูสมุนไพร “เถาวัลย์เปรียง” ลดการอักเสบ และผลิตภัณฑ์จากกัญชง ภายในงานยังเปิดตัวบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด รักษาอาการ Long COVID ด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทย

 

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์  ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  พร้อมด้วยนพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ภญ.ปาริชาติ แคล้วปลอดทุกข์ ผู้เชี่ยวชาญ 10 องค์การเภสัชกรรม นางศิริวรรณ ชัยสมบูรณ์พันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และ พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ร่วมแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 20 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 2 กรกฏาคม 2566  ณ ฮอลล์ 11 - 12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

นายอนุทิน กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคติดเชื้อ COVID-19 ที่ผ่านมา ประชาชนเลือกใช้สมุนไพรในการดูแลรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้นจนทำให้สมุนไพรเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ตามแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 – 2570 มุ่งเน้นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยกำหนดเป้าหมายในปี 2570 ขนาดตลาดวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพรของประเทศไทยคาดการณ์ว่าน่าจะเพิ่มขึ้น กว่า 100,000 ล้านบาท โดยแนวโน้มการการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศไทยมีปริมาณสูงขึ้นทุกปี โดย 3 ปีย้อนหลังพบว่า ปี 2565 มีมูลค่าสูงถึง 52,104.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ปี 2564  มูลค่าราว 48,108. ล้านบาท ปี 2563 มูลค่าราว 45,997.9  ล้านบาท จากการได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง

"การพัฒนาสมุนไพรตลอดห่วงโซ่ ถือเป็นวาระแห่งชาติที่ยังคงต้องเดินหน้าและพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อสร้างเศรษฐกิจ ความเข้มแข็งของชุมชน และความมั่นคงทางสุขภาพ ให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันทางอุตสาหกรรมสมุนไพรในระดับนานาชาติได้ โดยปี 2566 กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ร่วมจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทยฯ ครั้งที่ 20 สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย เพื่อร่วมสนับสนุนนโยบายการเปิดประเทศ คาดว่าจะมีเงินสะพัดตลอดทั้ง 5 วันของการจัดงานกว่า 300 ล้านบาท" นายอนุทินกล่าว

อภัยภูเบศชูสมุนไพรช่วยระบบทางเดินหายใจ

พญ.โศรยา  กล่าวว่า อภัยภูเบศรเล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ ที่ทวีความรุนแรง และจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังพบได้ในทุกวัย ซึ่งระบบทางเดินหายใจนับว่ามีความสำคัญอย่างมากไม่แพ้ระบบอวัยวะอื่นๆ เพราะทำหน้าที่พาอากาศที่ดีเข้าสู่ร่างกายและช่วยหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ให้ระบบในร่างกายทำงานได้สมบูรณ์ แต่ปัจจุบันก็มีโรคที่รบกวนทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาสิ่งแวดล้อม มลภาวะ ฝุ่น PM2.5 ที่มองไม่เห็น การติดเชื้อไวรัส หวัด รวมถึง โควิด 19 ที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเรื้อรังได้

“โรงพยาบาลฯ จึงเร่งพัฒนาข้อมูลงานวิจัยเพื่อใช้เป็นทางเลือกในการสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโควิด พบว่าเป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพในการบรรเทาอาการของโควิด หรือหวัด ต้านการอักเสบ และจากการวิจัย proteomics (โปรตีโอมิกส์) พบว่าพลาสมาของผู้ป่วยที่กินฟ้าทะลายโจรมีโปรตีนที่อาจมีส่วนช่วยลดภาวะลองโควิด ด้วยการลดการเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้  นอกจากนี้ อาการไอ อาการเจ็บคอ ก็เป็นปัญหาเรื้อรังที่พบได้บ่อยขึ้นเช่นกัน จึงได้พัฒนาฟ้าทะลายโจรในรูปแบบสารสกัดพ่นคอ ลดอาการอักเสบเฉพาะที่ และแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ได้ทำการศึกษาผลของการลดอักเสบ ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ พบว่า สเปรย์พ่นคอจากฟ้าทะลายโจร ให้ผลลดอาการเจ็บคอ อาการไอ ไม่ต่างจากยาเปรียบเทียบที่เป็นสารสกัดจากต่างประเทศ แต่ยาฟ้าทะลายโจรถูกกว่า รวมถึง ยาแก้ไอมะขามป้อม ที่ให้ผลลดอาการไอได้ดีไม่แตกต่างจากยาแผนปัจจุบัน แต่ยามะขามป้อมให้ความชุ่มคอกว่า และมีการใช้แทนยาแผนปัจจุบันอย่างแพร่หลายในหลายโรงพยาบาล” ผู้อำนวยการ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าว

แจกสมุนไพรฟรี 5 วัน วันละชนิด

พญ.โศรยา กล่าวว่า ภายในบูทของอภัยภูเบศร ยังเปิดคลินิกทางเดินหายใจให้ผู้ที่มีปัญหาสามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์แผนไทยได้ฟรี ตลอดงาน และยังแจกต้นพันธุ์สมุนไพรที่ช่วยดูแลทางเดินหายใจ วันละ 1 ชนิด ชนิดละ 300 ต้น โดยวันที่ 28 มิถุนายน แจกต้น หนุมานประสานกาย แก้ไอ ขับเสมหะ ขยายหลอดลม มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด วันที่ 29 มิถุนายน แจกต้น คนทีสอ แก้ไอ ลดอักเสบทางเดินหายใจ แก้หอบหืด วันที่ 30 มิถุนายน แจกต้น พฤกษ์ แก้ไอ ลดปอดอักเสบ ต้านการหอบ รักษาโรคเหงือกและคออักเสบ วันที่ 1 กรกฎาคม แจกต้น ตาลคอม้า ต้านการอักเสบ ต้านการแพ้ หอบหืด และ วันที่ 2 กรกฎาคม แจกต้น พริกกะเหรี่ยง แก้หวัด แก้หลอดลมอักเสบ ลดอาการคัดจมูก มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง และยังแจกฟรี หนังสือยันทึกของแผ่นดิน “สมุนไพร...ฟื้นฟู ดูแล ระบบทางเดินหายใจ” มูลค่า 320 บาท วันละ 200 เล่ม

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษ เวทีความรู้ สวนสมุนไพรที่รวบรวมพืชเพื่อทางเดินหายใจแข็งแรงไปจัดแสดงให้ชมกัน พร้อมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรจำหน่ายราคาพิเศษ พบกันได้ที่ อิมแพค เมืองทองธานี ฮอลล์ 11-12 บูธอภัยภูเบศร สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 037-211289

อภ.ชูเถาวัลย์เปรียง ลดการอักเสบ

ภญ.ปาริชาติ  กล่าวว่า องค์การเภสัชฯ มีโปรดักส์ 2 โซน สมุนไพรที่เป็นยา เน้นเถาวัลย์เปรียง มีฤทธิ์เภสัชวิทยา โดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราพยาบาลวิจัย ลดการอักเสบ และตัวที่ไม่ใช่ยา เป็นผลิตภัณฑ์จากเมล็ดกัญชง ในรูปแบบทั้งบอดี้ออยด์ เฟซออยด์ และยังมียาหม่องสมุนไพรจากกัญชง ส่วนกัญชาทางการแพทย์ยังเป็นสารสกัดน้ำมันกัญชาที่เคยพัฒนาออกมา ซึ่งก็จะมีการให้ความรู้ภายในมหกรรมเช่นกัน

ทั้งนี้  สำหรับบูธขององค์การฯ จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ GPO SIBANNAC 4 รายการ ดังนี้           GPO SIBANNAC BLAM GPO,  SIBANNAC Hemp Seed face Oil 30 ml, GPO SIBANNAC Hemp Seed body Oil 100 ml และ GPO SIBANNAC Hemp Seed face Oil hand cream 30 ml มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในราคาพิเศษ จำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำชากัญชง พร้อมดื่มจำหน่ายในงาน เพียงแก้วละ 55 บาท พร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมาย และเมื่อซื้อสินค้าที่บูธขององค์การเภสัชกรรม ครบทุก 500 บาท จะได้รับ 1 สิทธิตักไข่ เพื่อลุ้นรับผลิตภัณฑ์ขององค์การเภสัชกรรม หรือของที่ระลึกภายใต้แบรนด์องค์การเภสัชกรรม รวมมูลค่าสูงถึง 100,000 บาท และเมื่อซื้อสินค้าครบทุก 1,500 บาท ลูกค้าจะได้รับถุงผ้ารักษ์โลก Limited edition by GPO Planet ฟรี 1 ใบ มูลค่า 259 บาท และพิเศษสุดๆ สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ ครบ 1,000 บาทขึ้นไป ต่อใบเสร็จ จะได้รับผลิตภัณฑ์น้ำชากัญชง พร้อมดื่ม 1 แก้วฟรี

ไฮไลท์อื่นๆในงานมหกรรมสมุนไพร

นอกจากนี้ ภายในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ แบ่งกิจกรรมเป็น 2 ประเภท คือ 1.ประเภท Health ประกอบด้วยโซน "Wisdom" จัดแสดงนิทรรศการ 4 ภูมิภาค ให้บริการและสาธิตโดยหมอพื้นบ้าน หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ เช่น นวดไทย 4 ภูมิภาค การเหยียบเหล็กแดง กาดมั่ว เป็นต้น แสดงผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่พัฒนาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน พบกิจกรรม กิน อยู่ รู้ รักษา ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ชมและเรียนรู้การแพทย์แผนไทยสมุนไพรในพระไตรปิฎก และโซน "Service" ให้บริการและคำปรึกษาฟรี ทั้งด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก คลินิกกัญชาทางการแพทย์ คลินิกรักษาอาการ LONG COVID ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย โดยปีนี้มีให้บริการ “สุขสำราญนิทราคลินิก” รักษาอาการปวดเรื้อรังและนอนไม่หลับ เปิดตัวการบำบัดฟื้นฟูและลดอันตรายจากยาเสพติดและ Palliative care

 

2.ประเภท Wealth ประกอบด้วย โซน Innovation & Product, Wellness & Thainess , Business Matching มีการแสดงนิทรรศการ เพื่อนำเสนองานวิจัย และนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์สมุนไพรในทุกระดับ , นิทรรศการแสดงผลิตภัณฑ์สมุนไพรนานาชาติ จากผู้ประกอบการต่างประเทศ เช่น อินเดีย ออสเตรเลีย รัสเซีย และลาว , การพัฒนาตำรับยาลดการเสพติดจากตำรับยาทำให้อดฝิ่นและยารักษาอาการทางโรคผิวหนังจากกระท่อม , กิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสมุนไพร เพื่อเป็นช่องทางส่งเสริมด้านการตลาด

นอกจากนี้ ยังมี โซนวิชาการ เช่น งานสัมมนาวิชาการนานาชาติเรื่องกัญชากัญชง IMCC International Medical Cannabis Conference 2023 , การประชุมวิชาการประจำปี ในหัวข้อต่างๆ ทั้ง Global Trend โอกาสความท้าทายผลิตภัณฑ์สมุนไพรระดับสากล , พลิกโอกาส สารสกัดไทย ต่อยอดการส่งออก สร้างเศรษฐกิจไทย , ทิศทาง การขับเคลื่อน และอนาคตการแพทย์แผนไทย ในระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ และยังมีการประชุมอภิปรายประเด็นเฉพาะ 16 หัวข้อ การประกวดผลงานวิชาการประจำปีฯ , ตลาดความรู้ 15 หลักสูตรฟรี ขณะที่โซนเวทีกลาง พบกิจกรรมพิธีเปิด พิธีมอบรางวัล และกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ รวมถึงโซนจัดแสดงสินค้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีมาตรฐานกว่า 300 บูธ แจกกล้าไม้ กล้าไม้ยืนต้น สมุนไพร ไม้ใช้สอย ไม้กินได้ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และลุ้นรางวัลฟรีมากมายภายในงาน