ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เปิดขั้นตอน “ผู้ป่วยสิทธิข้าราชการ” และครอบครัวเข้ารับบริการ รพ.ต้องยืนยันตัวตนผ่านแอปฯเป๋าตัง และของสถานพยาบาลเพื่อเบิกจ่ายตรง ส่วนใครใช้ระบบเทเลเมดิซีน จัดส่งยาไปรษณีย์ต้องทำผ่านแอปฯเช่นกัน  

ตามที่นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น แสดงความกังวลกรณีกรมบัญชีกลาง ออกระเบียบใหม่ในการจัดส่งยาทงไปรษณีย์ของผู้ป่วยสิทธิข้าราชการว่า ต้องมีการยืนยันตัวตนที่โรงพยาบาล หรือทางแอปพลิเคชัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ซึ่งทำให้กังวลว่า ผู้ป่วยข้าราชการส่วนใหญ่วัยเกษียณ บางส่วนอยู่คนเดียวไม่สามารถใช้แอปพลิเคชันได้ ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล สวนทางนโยบายรัฐบาลที่ต้องการอำนวยความสะดวกประชาชนด้วยระบบดิจิทัลเฮลธ์นั้น

(ข่าวเกี่ยวข้อง : ส่อวุ่น! 1 ต.ค.นี้ กรมบัญชีกลางปรับระเบียบผู้ป่วยข้าราชการ)

ผู้สื่อข่าว Hfocus ได้รวบรวมแนวปฏิบัติการเบิกจ่ายที่เกี่ยวข้องต่างๆของสิทธิข้าราชการ ซึ่งแนบมาพร้อมกับหนังสือด่วนที่สุดที่ กค 0416.4/ว 367ของกรมบัญชีกลาง ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ส่งถึงปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการฯ เลขาธิการ ผู้อำนวยการสถานพยาบาลของทางราชการ ฯลฯ ลงนามโดยน.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง   โดยเป็นแนวปฏิบัติการเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกผ่านแอปพลิเคชัน ที่สถานพยาบาล และกรณีเทเลเมดิซีน รวมถึงการจัดส่งยาทางไปรษณีย์ ขณะเดียวกันสำหรับการให้บริการการแพทย์ทางไกลกรณีทำธุรกรรมช่วงสถานสถานการณ์โรคโควิด19 ให้ทำได้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.2566

แพทย์กังวลระบบซ้ำซ้อน ทำคนไข้งง

แพทย์รพ.แห่งหนึ่งระบุว่า  ระเบียบดังกล่าวทำให้ 1 ตุลาคม 2566 การจะดำเนินการทั้งระบบแพทย์ทางไกล และการมารพ.ต้องมีการยืนยันตัวตนทั้งหมด อย่างการบริการการแพทย์ทางไกลกรณีทำธุรกรรมช่วงโควิด ให้ทำได้ถึง 30 กันยายนนี้ หมายความว่าที่ผ่านมาเรามีระบบการแพทย์ทางไกลสำหรับตรวจวินิจฉัยและจ่ายยาถึงบ้านก็จะทำไม่ได้ ไม่ใช่แค่โรคโควิด ยกเว้นว่า หากจะทำต้องมีระบบขั้นตอนต่างๆ ซึ่งคนวัยเกษียณหลายคนทำไม่ได้ หลายคนไม่มีลูกหลาน ขณะที่สิทธิบัตรทองยังทำได้หมด อำนวยความสะดวกหมด จึงอยากให้รัฐบาลประสานกรมบัญชีกลางในการทำระบบกลางที่ไม่ต้องยุ่งยากทั้งผู้ปฏิบัติงานในการเพิ่มภาระขั้นตอน กับผู้รับบริการประชาชนสิทธิข้าราชการได้หรือไม่

แนวปฏิบัติการเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกผ่านแอปพลิเคชันสำหรับการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาล (Onsite) แบ่งเป็น

ส่วนผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว

1.ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่ประสงค์ใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกผ่านแอปพลิเคชัน สำหรับการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาล (Onsite) ให้แสดงตน ณ สถานพยาบาล และใช้รหัสผ่านในกระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชันเป๋าตังในการทำธุรกรรมการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรง  ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว ต้องเก็บรักษาและไม่เผยแพร่รหัสผ่านในการทำธุรกรรมเบิกจ่ายตรง

2.การเข้ารับการรักษาพยาบาลให้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติของรพ. ซึ่งรพ.อาจกำหนดให้มีผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่ประสงค์จะทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันต้องดำเนินการตามขั้นตอนภายในของสถานพยาบาลร่วมด้วย โดยหลังจากเข้ารับการรักษาพยาบาลแล้ว ให้ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวเข้าสู่กระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชันเป๋าตังและดำเนินการตามขั้นตอนในแอปพลิเคชัน พร้อมตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลการรักษาพยาบาลก่อนยืนยันการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรง

3.ให้ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวทำธุรกรรมเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรงทุกครั้งหลังเข้ารับบริการ เมื่อทำเสร็จ แอปฯ จะแสดงหน้าจอข้อมูลสรุป พร้อมกับคำว่าใช้สิทธิสำเร็จ

ส่วนสถานพยาบาล

1.สถานพยาบาลอาจกำหนดให้ทำธุรกรรมผ่านแอปฯ ต้องดำเนินการตามขั้นตอนภายในของรพ.ร่วมด้วย เพื่อมิให้เกิดปัญหาในการส่งเบิกค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรง

2.ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวจะต้องแสดงตน ณ สถานพยาบาล และทำธุรกรรมเบิกจ่ายตรงผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยใช้รหัสผ่านในการทำธุรกรรมเบิกจ่ายตรง

3.สถานพยาบาลต้องจัดให้มีการแสดงรายละเอียดค่ารักษาพยาบาลในกระเป๋ษสุขภาพบนแอปฯ เป๋าตัง อย่างน้อยจะต้องปรากฎในรายละเอียดส่วนที่มีผู้มีสิทธิและครอบครัวจะต้องชำระค่ารักษาเพิ่มเติม(ส่วนที่เบิกไม่ได้) เพื่อให้ผู้ป่วยรับทราบและตรวจสอบรายการค่ารักษาพยาบาลได้

4.เมื่อทำธุรกรรมเสร็จ ระบบจะส่งเลขอนุมัติไปยังระบบสารสนเทศของสถานพยาบาล เพื่อให้ใช้ประกอบการส่งข้อมูลเบิกจ่ายตรง

แนวปฏิบัติการเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกผ่านแอปพลิเคชัน สำหรับการเข้ารับบริการการแพทย์ทางไกล หรือเทเลเมดิซีน(Telemedicine) ระบุใจความสำคัญ ดังนี้ 

-ผู้มีสิทธิข้าราชการ และบุคคลในครอบครัวจะต้องยืนยันการเข้ารับการรักษาพยาบาล (Check-in) ก่อนให้บริการการแพทย์ทางไกล และใช้รหัสผ่านเพื่อทำธุรกรรมเบิกจ่ายตรงหลังให้บริการการแพทย์ทางไกล(Check-out) ผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชันเป๋าตังทุกครั้ง หากไม่ดำเนินการดังกล่าวให้ครบถ้วน เพื่อประกอบการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรง ให้เรียกเก็บเงินจากผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัว และออกใบเสร็จรับเงิน เพื่อให้นำไปยื่นขอใช้สิทธิเบิกเงินค่ารักษาพยาบาล ณ ส่วนราชการต้นสังกัด

-สถานพยาบาลต้องมีการบันทึกข้อมูลการรักษาพยาบาลในเวชระเบียบหรือระบบข้อมูลของสถานพยาบาลเสมือนผู้ป่วยเข้ารับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาล

-สถานพยาบาลจะต้องเชื่อมต่อระบบสารสนเทศของสถานพยาบาลกับกระเป๋าสุขภาพ บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อรับ ส่งข้อมูลการใช้สิทธิให้ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวสามารถตรวจสอบยืนยันตัวตนและใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงผ่านแอปพลิเคชันได้

 -การสั่งยาให้ดำเนินการภายใต้เงื่อนไข อาทิ จัดส่งยาให้กับผู้ป่วยโดยตรง โดยใช้การขนส่งที่มีการลงทะเบียนและมีระบบติดตามพัสดุ เมื่อทำธุรกรรมแล้วเสร็จระบบจะส่งเลขอนุมัติไปยังระบบสารสนเทศของสถานพยาบาล ให้สถานพยาบาลใช้เลขอนุมัติ ประกอบการส่งข้อมูลในระบบเบิกจ่ายตรง

 

 

 

ข่าวเกี่ยวข้อง :  กรมบัญชีกลางแจงหลักการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกกรณีใช้แอปฯยืนยันตัวตน