ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ขอทวงคืนศักดิ์ศรีในวิชาชีพ และความเป็นมนุษย์   ไม่ยอมรับการกระทำ “หมออาวุโส” ใช้อำนาจ ไม่ให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ทุกรูปแบบ ทั้งความรุนแรงทางคำพูด ทั้งใช้วาจ่าด่าทอ ทำให้อับอาย  ลั่นเป็นการกระทำผิดกฎหมายวิชาชีพ ขอติดตามความยุติธรรมในเร็ววัน

 

 

หลังจากผู้แทนสหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนพ.ทศพร เสรีรักษ์ เป็นประธานกมธ.การสาธารณสุข สภาฯ ประชุมหารือเรื่องปัญหาขาดแคลนกำลังคนด้านสุขภาพ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีการพูดถึงปัญหาการทำงานของแพทย์รุ่นน้อง ต้องประสบกับปัญหาการกระทำของแพทย์รุ่นพี่นั้น

 

ล่าสุดเฟซบุ๊ก สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน โพสต์ข้อความกรณีแพทย์ทั่วไปถูกกระทำโดยแพทย์เฉพาะทางที่อาวุโสสูงกว่า  โดยระบุว่า

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อคนมีอำนาจ คนย่อมต้องใช้มันเพื่อตอบสนองความต้องการบางอย่าง อำนาจบางอย่างมาพร้อมกับความสามารถหรือความรู้ความชำนาญพิเศษ หากเพียงแต่ว่า คนที่ได้อำนาจนั้นมา จะบริหารอำนาจนั้นอย่างไรโดยที่ไม่ทำให้ผู้ที่อยู่ใต้อำนาจเดือดร้อน นี่คือหลักการพื้นฐานในการดำรงชีวิตในสังคมมนุษย์ให้เป็นไปด้วยความสงบสุข  แต่ในสังคมแพทย์นั้นอาจไม่เป็นเช่นนั้น เรายังคงเห็นแพทย์ที่มีอาวุโสมากกว่า ใช้อำนาจในทางมิชอบ ทั้งขมขู่ให้ทำตามใจตน หรือใช้คำหยาบคายต่อว่า ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพ และหัวรั้นคิดว่าตนเองมีสิ่งที่วิเศษเหนือมนุษย์มนาคนอื่น แต่แท้จริงแล้ว เป็นเพียงความหยิ่งผยองเบาปัญญาของมนุษย์ผู้หลงอยู่ในโลภะ โทสะ โมหะ เพียงเท่านั้น

 

ไม่มีมนุษย์ที่ไหนพึ่งกระทำเช่นนี้ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง และไม่มีมนุษย์ผู้ใดสมควรถูกกระทำอย่างจำยอมโดยไม่มีปากมีเสียงต่อสู้ เพียงเพราะสู้ไปแล้ว คนอื่นก็จะอยู่ฝ่ายอำนาจนิยม ไม่สามารถคืนความยุติธรรมให้ผู้ถูกกระทำได้ ความสิ้นหวังประเภทนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไม่สามารถจดบันทึกได้ถ้วน และหลายคนอยากปิดเรื่องนี้เพียงเพราะ “”ไม่อยากมีปัญหาทีหลัง”” หรือ “”กลัวไม่ได้เรียนต่อ””

 

การเรียนต่อสำหรับแพทย์ทั่วไปถือเป็นหนึ่งในการแสวงหาอำนาจในการใช้งานผู้ที่อยู่ต่ำต้อยกว่าในทางสถานภาพ บางคนมีสติปัญญามากพอ ก็จะระลึกได้ว่า อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ เพราะคนที่ร่วมงานกันนั้นย่อมมีศักดิ์ศรีในวิชาชีพและอย่างน้อนที่สุดคือศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ ซึ่งเท่าเทียมกัน แต่หากเป็นผู้ไร้ซึ่งวิจารณญาณ ก็คงจะทำเพื่อเพียงส่งต่ออำนาจนิยมต่อไปและถีบตัวเองออกจากวงโคจรผู้ถูกกระทำและหาร่างทรงใหม่สิงสถิตเท่านั้น

 

ความยุติธรรมที่ทันท่วงที ก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังวลี “ความยุติธรรมที่มาช้าก็คือความอยุติธรรม” เพราะเหยื่อจะต้องได้รับผลกระทบต่อเนื่องแม้ อยู่ในช่วงการไต่สวน ความเสียหายก็ยังเกิดต่อเนื่องได้ หากไม่มีการคุ้มครองที่ดีพอ คงไม่มีบ้านใดที่อยู่โดยไม่มีชายคา แน่นอนว่าคงไม่มีความยุติธรรมประเภทใดที่จะอยู่ได้โดยปราศจากความชอบธรรมการเห็นใจเพื่อนมนุษย์และสามัญสำนึก

 

สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ในฐานะผู้ร่วมวิชาชีพ ไม่ยอมรับการกระทำที่ไม่ให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงทางคำพูด ทั้งใช้วาจ่าด่าทอ ทำให้อับอาย หรือ ข่มขู่หมายเอาชีวิต ทางการกระทำ หรือการทำร้ายร่างกาย หรือ การใช้กำลังในการบังคับ

 

ตามประกาศข้อบังคับ แพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีเวชกรรม พ.ศ.2565

ส่วนที่ 3

การปฏิบัติตนต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ร่วมงาน

ข้อ 24 ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมพึงยกย่อง ให้เกียรติ เคารพในศักดิ์ศรีของผู้ประกอบ วิชาชีพเวชกรรมและผู้ร่วมงาน

ข้อ 25 ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่กระทำการในลักษณะให้ร้าย ทับถม ดูถูก เหยียดหยาม กลั่นแกล้ง ล่วงเกิน หรือการกระทำอื่นใดในทำนองเดียวกัน ต่อผู้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรมและผู้ร่วมงาน

.

ความยุติธรรมเดียวที่แสวงหาได้ จะต้องเป็นธรรม รวมถึงไม่ล่าช้าจนก่อเป็นความอยุติธรรมที่สอง

หวังว่าอำนาจนิยมและ Power harassment ในวงการแพทย์ จะพังทลายลงและจะต้องไม่มีใครได้รับผลกระทบแบบนี้อีกต่อไปในเร็ววัน

 

สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน จะติดตามกระบวนการคืนความยุติธรรมให้กับกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

(ข่าวเกี่ยวข้อง : กมธ.การสาธารณสุข ถกร่วม สธ.-สหภาพแพทย์ฯ หาทางแก้ปัญหากำลังคนด้านสุขภาพ)