เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม บริษัท โคคา-โคล่า โค และแมคโดนัลด์ ออกแถลงการณ์แสดงความไม่พอใจต่อข้อเสนอของนายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่จะออกมาตรการห้ามขายน้ำอัดลมแก้วใหญ่ หลังจากบลูมเบิร์กเสนอแนวทางเพื่อสุขภาพของชาวเมืองด้วยการห้ามขายน้ำอัดลมแก้วใหญ่กว่าขนาด 16 ออนซ์ โดยให้เหตุผลว่า สหรัฐกำลังมีคนที่น้ำหนักเกินเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวไม่จำเป็นที่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาเมืองนิวยอร์ก และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีหน้าเป็นต้นไป หากร้านใดฝ่าฝืนจะถูกปรับ 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,200 บาท) โดยจะเน้นไปที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดและร้านอาหารทั่วไป รวมถึงสนามกีฬา รถเข็นขายอาหาร โรงภาพยนตร์ แต่จะไม่ครอบคลุมการขายเครื่องดื่มในซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก และร้านขายยา รวมทั้งไม่ครอบคลุมเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น น้ำผลไม้ นม หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ด้าน บริษัท โคคา-โคล่า โค ออกแถลงการณ์ว่า "ชาวนิวยอร์กน่าจะได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ ทุกคนมีสิทธิของตัวเองที่จะเลือกว่าอยากซื้อเครื่องดื่มอะไร" ขณะที่นางฮีทเธอร์ โอลดานี โฆษกหญิงของแมคโดนัลด์ เครือข่ายร้านฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กล่าวว่า การต่อสู้กับโรคอ้วนจะต้องการความร่วมมือและการครอบคลุมที่มากกว่านี้ ซึ่งประเด็นเรื่องสาธารณสุขไม่ควรที่จะมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายแคบๆ และคำสั่งห้ามที่ผิดๆ (รอยเตอร์/เอเอฟพี)
--ประชาชาติธุรกิจฉบับวันที่ 4 - 6 มิ.ย. 2555--
