ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เตรียมศึกษาอัตราการจ่ายเงินบำนาญให้สอดคล้องกับฐานเงินเดือน ด้าน'นพ.สมเกียรติ' คำนวณตัวเลขเบื้องต้นกรณีผู้ประกันตนเงินเดือน 15,000 บาท คาดรับเงินบำนาญเดือนละ 3,000 บาท

นายอารักษ์ พรหมณี รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในฐานะโฆษก สปส. กล่าวถึงกรณีการจ่ายเงินชราภาพให้แก่ผู้ประกันตนที่มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมนานครบ 15 ปี ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 76 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกันสังคม พ.ศ.2533 โดย สปส.จะเริ่มจ่ายเงินชราภาพในปี 2557 เป็นปีแรก ว่า สำหรับผู้ประกันตนที่มีคุณสมบัติดังกล่าว กฎหมายประกันสังคมกำหนดไว้ว่า จะต้องรับเงินชราภาพเป็นเงินบำนาญเท่านั้น ไม่สามารถรับเป็นเงินบำเหน็จได้ โดยจะต้องรับเป็นเงินบำนาญตลอดชีวิต ส่วนกรณีผู้ที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมานาน 15 ปี แต่อายุไม่ถึง 55 ปี ให้มารับเงินชราภาพได้เมื่ออายุครบ 55 ปี บริบูรณ์ และผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบไม่ถึง 15 ปี แต่มีอายุครบ 55 ปีแล้ว ก็สามารถมารับเงินชราภาพได้เช่นกัน และหากผู้ประกันตนเสียชีวิต เงินบำนาญชราภาพจะตกเป็นของลูกหลานผู้ประกันตน ทั้งนี้ สปส.กำลังศึกษาอยู่ว่าการจ่ายเงินบำนาญชราภาพในอัตราเท่าใดจะเหมาะสมกับฐานเงินเดือนของผู้ประกันตน ซึ่งมีฐานเงินเดือนอยู่ในระดับที่ต่างกัน โดยจะต้องกำหนดให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพในปัจจุบันด้วย

นายอารักษ์กล่าวอีกว่า ในปี 2557 สปส.ประมาณการว่าจะมีผู้ประกันตนที่อายุครบ 55 ปี รับเงินบำนาญชราภาพจำนวน 5,000 คน รวมเป็นเงินประมาณ 90 ล้านบาท ส่วนผู้ประกันตนที่อายุครบ 55 ปี แต่ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมไม่ครบ 15 ปี ตามกฎหมายกำหนดสามารถรับเงินบำเหน็จได้ โดยขณะนี้มีผู้รับเงินบำเหน็จชราภาพประมาณ 120,000 คน เป็นเงินจำนวน 8,000 ล้านบาท รวมแล้วใช้เงินทั้ง 2 กรณีกว่า 8,090 ล้านบาท โดยสถานะเงินกองทุนประกันสังคมในปัจจุบันมีเงินสะสมจำนวน 946,376 ล้านบาท

ด้าน นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) กล่าวว่า จากการคำนวณเบื้องต้นในการจ่ายเงินบำนาญชราภาพ พบว่า ผู้ประกันตนที่มีอัตราเงินเดือน 9,000 บาท จะได้รับเงินบำนาญประมาณเดือนละ 1,800 บาท ส่วนผู้ที่มีอัตราเงินเดือน 15,000 บาท จะได้รับเงินบำนาญประมาณเดือนละ 3,000 บาท ส่วนกรณีผู้ประกันตนมาตรา 33 ของ พ.ร.บ.ประกันสังคมฯ ที่มีรายได้อยู่ในอัตราต่ำสุด คือไม่เกินเดือนละ 1,650 บาท และนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเดือนละ 83 บาท จำนวนกว่า 100,000 คน ทำให้จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเพียงเดือนละ 600 บาทต่อคนเท่านั้น

"เงินจำนวนดังกล่าวยังน้อยมาก ขณะนี้ สปส.จึงกำลังไปศึกษาการปรับเพดานขั้นต่ำในการจ่ายเงินบำนาญชราภาพให้แก่ผู้ประกันตนกลุ่มดังกล่าว เพื่อให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ โดยเห็นว่า ควรกำหนดให้สูงกว่าอัตราเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่รัฐบาลจ่ายให้เดือนละ 600 บาท ซึ่ง สปส.ต้องศึกษารายละเอียดต่อไปว่าจ่ายเงินบำนาญในอัตราเท่าใดจึงจะเหมาะสม" นพ.สมเกียรติกล่าว

--มติชน ฉบับวันที่ 3 ธ.ค. 2555--