ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ภารกิจของ สปส.ในปี 2556 จะดูแลผู้ประกันตนให้ได้รับสิทธิประโยชน์และปรับปรุงมาตรฐานการให้บริการให้ดีขึ้นหรืออย่างน้อยไม่ด้อยไปกว่าเดิม แม้ในปีนี้ ทาง สปส.ได้มีการลดอัตราการส่งเงินสมทบของนายจ้างและลูกจ้างฝ่ายละร้อยละ 1 จากปกติอยู่ที่ร้อยละ 5 เพื่อลดผลกระทบให้แก่สถาน ประกอบการเนื่องจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ วันละ 300 บาท รวมทั้งจะเร่งติดตามทวงเงิน สมทบที่สถานประกอบการค้างชำระกองทุนประกันสังคมกว่า 4,000 ล้านบาท

เลขาธิการสปส. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะเดินหน้าผลักดันการแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. 2553 โดยมีแก้ไขในประเด็นต่างๆ เช่น กรณีเงินสิทธิประโยชน์ชราภาพ ซึ่งในร่าง พ.ร.บ.ฉบับแก้ไขกำหนดว่าหาก ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเสียชีวิตก่อนอายุ 55 ปี เงินสมทบที่ผู้ประกันตนส่งจะตกเป็นของทายาทผู้ประกันตนในรูปแบบของเงินบำเหน็จ เนื่องจาก กฎหมายประกันสังคมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไม่ได้ กำหนดเรื่องนี้ไว้ รวมทั้งปรับปรุงระบบประกันสังคมเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้อยู่ระหว่างรอเข้าสู่การพิจารณาของ คณะรัฐมนตรี (ครม.) และ สปส.จะหาข้อสรุป แนวทางแก้ปัญหากรณีกองทุนประกันสังคมจะอยู่ในภาวะติดลบในปี 2587

"ปีหน้า สปส.จะบูรณาการการจัดระบบข้อมูลผู้ป่วยและการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ไตวายเรื้อรังและเอดส์ ระหว่างกองทุนประกันสังคมกับกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและกองทุน สวัสดิการข้าราชการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผู้ประกันตนที่เกษียณอายุการทำงานจากสถานประกอบการต่างๆ และไม่ได้เป็น ผู้ประกันตน ซึ่งป่วย 3 โรคนี้ สามารถโอนไปใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้ทันที เพื่อจะได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องและมีมาตรฐานเดียวกัน" เลขาธิการ สปส.กล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 3 มกราคม 2556