ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด สปส.ได้พิจารณาการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลที่ผู้ประกันตนเข้ารับการรักษา ซึ่งปัจจุบันมี ทั้งหมด 5 รูปแบบ ได้แก่ 1.การเหมาจ่าย ค่ารักษาพยาบาล 1,446 บาทต่อคนต่อปี 2.การจ่ายเงินให้โรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองคุณภาพในระดับ HA 3.การจ่ายเงิน ค่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ค่าอุปกรณ์ ทางการแพทย์ หรือค่าอวัยวะเทียมตามใบเบิกค่ารักษาพยาบาล 4.การจ่ายเงินค่าภาวะเสี่ยง 432 บาทต่อคนต่อปี สำหรับการรักษาผู้ประกันตนทั้งผู้ป่วยนอกและ ผู้ป่วยใน ซึ่งเป็นโรคเรื้อรัง 26 โรค เช่น โรคต้อหิน โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง ฯลฯ โดยผู้ป่วยในจะต้องเป็นผู้ที่มีค่าระดับความรุนแรงของโรค (RW) น้อยกว่าระดับ 2 และ 5.การจ่ายเงินสำหรับ ผู้ประกันตนที่เป็นโรคร้ายแรงที่มีค่าใช้จ่ายสูง มีค่ากลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRG) ที่มีค่า RW ตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไป ซึ่งในปี 2555 มีวงเงิน กว่า 4,460 ล้านบาท

"ที่ประชุมมีมติให้ยกเลิกค่าใช้จ่ายในการให้บริการทางการแพทย์ที่ให้แก่ โรงพยาบาลที่ผู้ประกันตนเข้ารับการรักษา ในส่วนของการจ่ายเงินค่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เฉพาะทาง จำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งการ ยกเลิกค่าใช้จ่ายในการให้บริการทางการแพทย์ ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการรักษาพยาบาล ผู้ประกันตน เนื่องจากงบในส่วนนี้เป็นการจ่ายซ้ำซ้อนกับการจ่ายเงินในระบบ DRG ตั้งแต่ที่มีค่า RW ระดับ 2 ขึ้นไป โดยที่ประชุมได้ให้ สปส.นำงบส่วนนี้ไปเพิ่ม ในส่วนของงบค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ และ สปส.จะต้องเพิ่มงบเข้าไปอีก 41 ล้านบาท เพื่อเพิ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ของ สปส.จาก 50 รายการ เป็น 170 รายการ จะได้มี มาตรฐานเท่าเทียมกับสำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมบัญชีกลาง" นพ.สมเกียรติ กล่าว

นพ.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ยังได้พิจารณาการจ่ายค่ารักษาผู้ประกันตน ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง โดยหากมีระดับ RW ตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไป สปส.จะจ่ายค่ารักษา ให้โรงพยาบาลที่ให้การรักษาระดับละ 11,500 บาท ไปก่อน จากวงเงินสูงสุดที่ตั้ง ไว้ระดับ RW ละ 15,000 บาท ทั้งนี้ หาก สปส.ตรวจสอบแล้วพบว่า โรงพยาบาลรักษาโรคที่มี RW ตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไปจริง สปส.จะจ่ายเงินค่ารักษาเพิ่มเติมให้ โรงพยาบาลจนครบยอดวงเงินสูงสุด ในภายหลัง คาดว่าจะสามารถสรุปยอดค่ารักษาโรคร้ายแรงในปี 2555 แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 18 มกราคม 2556