ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

สปส.เผยยอดเงินสะสมกองทุนประกันสังคมแตะ 1 ล้านล้านบาท ผู้ประกันตนกว่า 11 ล้านคน เร่งจัดทำทะเบียน รพ.คู่สัญญาศักยภาพสูง เพิ่มความคล่องตัวในการส่งต่อผู้ป่วย

เมื่อวันที่ 4 เมษายน นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการการแพทย์ สปส.เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวปฏิบัติการจ่ายค่ารักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงตามข้อสรุป ซึ่ง สปส.ได้ประชุมทำความตกลงกับโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม และโรงพยาบาลคู่สัญญาที่มีศักยภาพสูง (Supra Contractor )ไปเมื่อเร็วๆ นี้ หากผู้ประกันตนที่มีระดับความรุนแรงของโรค หรืออาร์ดับเบิลยู (RW) อยู่ในระดับ 2 ขึ้นไป แล้วเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคมที่ผู้ประกันตนมีบัตรรับรองสิทธิอยู่ สปส.จะจ่ายค่ารักษาให้ RW ระดับละ 11,500 บาท ไปก่อน จากวงเงินที่กำหนดไว้ RW ระดับละ 15,000 บาท หลังจากนั้นช่วงปลายปี เมื่อ สปส.สรุปผลค่ารักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงในภาพรวมแล้ว หากมีงบเหลือจากที่ตั้งงบรองรับไว้ 4,460 ล้านบาท สปส.จะจ่ายเงินค่ารักษาส่วนที่เหลือให้แก่โรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม แต่หากไม่มีงบเหลือ และประเมินแล้วพบว่าโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคมมีภาระค่ารักษามาก ก็จะหาทางช่วยเหลือต่อไป

นพ.สมเกียรติกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่โรงพยาบาลที่ผู้ประกันตนมีบัตรรับรองสิทธิส่งต่อผู้ป่วยไปให้โรงพยาบาลคู่สัญญาที่มีศักยภาพสูงรักษาต่อ สปส.จะจ่ายค่ารักษาให้โรงพยาบาลคู่สัญญาที่มีศักยภาพสูงที่ RW ระดับละ 15,000 บาท แต่หากค่ารักษาทั้งหมดเกินกว่าวงเงินที่ สปส.กำหนด โรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคมซึ่งเป็นผู้ส่งต่อผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินส่วนต่างให้แก่โรงพยาบาลคู่สัญญาเอง ซึ่งจากการหารือโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคมไม่ขัดข้อง และจะใช้แนวปฏิบัตินี้เพียง 6 เดือน หรือสิ้นสุดในเดือนตุลาคมนี้

นพ.สมเกียรติกล่าวอีกว่า ได้กำชับให้ที่ประชุมเร่งจัดทำทะเบียนโรงพยาบาลคู่สัญญาที่มีศักยภาพสูงตามเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งมีประมาณ 50-60 แห่ง ให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาในการดำเนินการเบิกจ่าย หรือส่งต่อผู้ป่วย ขณะนี้มีโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม 8 แห่ง ที่ยังไม่มีโรงพยาบาลคู่สัญญา ซึ่ง สปส.จะเร่งให้โรงพยาบาลกลุ่มนี้ติดต่อกับโรงพยาบาลที่อยู่ในทะเบียนเพื่อให้มาเป็นคู่สัญญาโดยเร็วที่สุด

ด้านนายอารักษ์ พรหมณี รองเลขาธิการ สปส. กล่าวว่า ข้อมูลของ สปส.ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ประกันตนทั้งสิ้น 11,820,108 คน แบ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 9,465,388 คน มาตรา 39 จำนวน 999,991 คน และมาตรา 40 จำนวน 1,354,729 คน ปัจจุบันกองทุนประกันสังคมมีเงินสะสมกว่า 1,083,198 ล้านบาท นอกจากนี้ สปส.สามารถทวงเงินสมทบจากนายจ้างได้กว่า 130 ล้านบาท จึงเหลือเงินที่นายจ้างค้างจ่ายเงินกว่า 3,650 ล้านบาท

มติชน ฉบับวันที่ 6 เม.ย. 2556 (กรอบบ่าย)