ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

จากกรณีที่กรรมการ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สั่งเลื่อนการพิจารณา ผอ.สวรส.คนใหม่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจาก มศว.ก่อน กรณี นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล ที่มีข่าวว่าจะถูกเสนอชื่อเป็น ผอ.สวรส.คนใหม่ ถูกกล่าวหาลอกงานวิชาการขึ้นตำแหน่งศาสตราจารย์

นพ.ศิริวัฒน์  ทิพย์ธราดล  อดีต ผอ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และอดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า เห็นด้วยกับมติบอร์ด สวรส. เมื่อวันที่ 17 มิย. ที่ผ่านมาที่เลื่อนการเสนอชื่อ ผอ.สวรส. คนใหม่ เพื่อรอข้อมูลจาก มศว. “เรื่องนี้บอร์ด สวรส.ต้องรอบคอบและเป็นอิสระ เพราะ สวรส.มีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับนักวิชาการสาธารณสุขระดับสูงทั้งในและต่างประเทศ และมีงานวิจัยที่สามารถผลักดันนโยบายด้านสาธารณสุขที่มีผลต่อประชาชนทั้งประเทศ เช่น นโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ชุดสิทธิประโยชน์ของผู้ป่วย ฯลฯ  ที่ผ่านมา สวรส. มีผลงานเป็นที่ยอมรับอย่างสูง และมีบทบาทสำคัญในเวทีวิชาการระดับโลก  การมีเครดิตทางวิชาการ เป็นคุณสมบัติทีมีความสำคัญมากที่สุดของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง ผอ.สวรส.” อดีต ผอ.สวรส.กล่าวต่อว่า “การเสนอชื่อใครก็ตามที่สังคมตั้งข้อครหาว่าขาดจริยธรรมมีความด่างพร้อยเรื่องผลงานวิชาการ จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อภาพลักษณ์ของ สวรส.  และเชื่อว่าชาวสาธารณสุขทั้งในและนอกประเทศ จะไม่ยอมรับ”

ด้าน นพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท  ที่ได้มีหนังสือทักท้วงบอร์ด สวรส.ให้ใช้ความรอบคอบในการคัดเลือก ผอ.สวรส.คนใหม่ เปิดเผยว่า “นพ.ประดิษฐ  รมว.สาธารณสุข และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.สาธารณสุข ถ้ายังดันทุรังจะผลักดันเพื่อนสนิทที่มีตำหนิด้านจริยธรรมทางวิชาการให้ ครม.แต่งตั้งเป็นผอ.สวรส.คนใหม่ จะต้องรับผิดชอบกับความเสียหายที่จะเกิดกับระบบสาธารณสุข และจะเป็นอีกประเด็นที่เรียกเสียงคัดค้านจากชาวสาธารณสุขทั่วประเทศเหมือนกรณีบังคับ รพ.ชุมชนทำพีฟอร์พีอย่างแน่นอน” 

แหล่งข่าวกระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า ขณะนี้นักวิชาการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องต่างเชื่อว่าการที่ผู้มีอำนาจทางการเมืองได้ผลักดันให้มีการเปลี่ยนบอร์ด สวรส.ชุดใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และสั่งการให้เลือกคนใกล้ชิดให้เป็น ผอ.สวรส. คนใหม่ มีผลประโยชน์แอบแฝงต้องการใช้ สวรส.เป็นเครื่องมือทางวิชาการสนับสนุนนโยบายพีฟอร์พี  Medical Hub และนโยบายอื่นๆ ของฝ่ายการเมือง เพื่อเอื้อการเติบโตของธุรกิจบริการสาธารณสุขของเอกชน 

แหล่งข่าวกระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า ขณะนี้นักวิชาการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องต่างเชื่อว่าการที่ผู้มีอำนาจทางการเมืองได้ผลักดันให้มีการเปลี่ยนบอร์ด สวรส.ชุดใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และสั่งการให้เลือกคนใกล้ชิดให้เป็น ผอ.สวรส. คนใหม่ มีผลประโยชน์แอบแฝงต้องการใช้ สวรส.เป็นเครื่องมือทางวิชาการสนับสนุนนโยบายพีฟอร์พี  Medical Hub และนโยบายอื่นๆ ของฝ่ายการเมือง เพื่อเอื้อการเติบโตของธุรกิจบริการสาธารณสุขของเอกชน