ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ไทยโพสต์ - นายแพทย์โสภณ เมฆธนอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เป็นกลุ่มเด็กว่าปัจจุบันประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ประมาณ 440,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กประมาณ 14,000 คน ในทุกๆวันจะมีเด็กอย่างน้อยหนึ่งคนที่เกิดมาพร้อมเชื้อเอชไอวี หากไม่ได้ยาต้านไวรัสเด็กเหล่านี้จะเสียชีวิตก่อนอายุครบห้าขวบ รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยเอดส์ที่เป็นเด็กด้วยการ แจกยาต้านไวรัส (ARV) ให้แก่หญิงตั้งครรภ์ที่มีเชื้อทั่วประเทศ ตลอดจนบริการให้คำปรึกษาและการตรวจเลือดจนสามารถลดอัตราการแพร่เชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 3 (จากร้อยละ 30 เมื่อ 20 ปีที่แล้ว) พร้อมทั้งได้ชูนโยบาย ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา ตั้งเป้า ต้องไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ที่ติดเชื้อแล้วไม่ป่วยไม่ตาย ไม่มีการตีตรา กีดกันโอกาสทางสังคม และการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข

แพทย์หญิงวราภรณ์ ภูมิสวัสดิ์รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กที่ได้รับผลกระทบจากเอชไอวีเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง การได้รับเชื้อเอชไอวีเป็นเรื่องที่น่ากลัวและเจ็บปวดมากสำหรับเด็กๆกลุ่มนี้ และความเจ็บปวดนี้กลับยิ่งเลวร้ายลงไปอีกด้วยการถูกรังเกียจจากครอบครัวและชุมชนของตน การถูกกีดกันจากโรงเรียนและการถูกตัดขาดจากเพื่อน อคติที่สังคมมีต่อผู้มีเชื้อเอชไอวีทำให้เด็กกลุ่มนี้ซึ่งเป็นเด็กที่ต้องการความรักและความช่วยเหลือมากที่สุดกลับกลายเป็นคนที่ถูกกีดกันและได้รับความช่วยเหลือจากสังคมน้อยที่สุด กรมควบคุมโรคโดยสถาบันบำราศนราดูรจึงได้จัดทำ “โครงการการป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก” ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 เพื่อส่งเสริมการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี โดยให้บริการปรึกษาแบบคู่ กระตุ้นให้สามี-ภรรยารับการตรวจเลือด และเพิ่มอัตราการเปิดเผยผลเลือด รวมทั้งการป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก

ด้านแพทย์หญิงจริยา แสงสัจจาผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวถึง “โครงการการป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก”ว่าโครงการนี้ช่วยค้นหาผู้ติดเชื้อให้เข้าสู่ระบบการดูแลรักษา ส่งเสริมการป้องกันในครอบครัว “ที่ผ่านมาพบว่าผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ มีสามีของหญิงตั้งครรภ์มารับการปรึกษาเพื่อตรวจเลือดเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.3 เป็นร้อยละ 77.5 ผลการตรวจเลือดทั้งสามี-ภรรยาในกลุ่มนี้เป็นลบร้อยละ 97.09 ผลบวกทั้งคู่มีเพียงร้อยละ0.27, สามีผลบวก/ภรรยาผลลบ ร้อยละ 1.64, สามีผลลบ/ภรรยาผลบวก ร้อยละ 1.0 นอกจากนี้จากการติดตามตรวจเลือดในเด็กทารก ไม่พบการติดเชื้อจากแม่ โดยข้อมูล 3 ปีย้อนหลัง อัตราการติดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกเท่ากับ 0” แพทย์หญิงจริยากล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์  วันที่ 3 ธันวาคม 2556