ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข เดินสายออกตรวจการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาลปีใหม่ ผลตั้งแต่วันที่ 27 -30 ธันวาคม 2556 พบผู้กระทำผิดและดำเนินคดีแล้ว 63 ราย ใน 5 จังหวัด ความผิดอันดับ 1 คือการโฆษณา รองลงมาคือขายลดแลกแจกแถม โดยเฉพาะการขายบุฟเฟ่ต์เบียร์ เติมไม่อั้น เป็นการขายที่ส่งเสริมให้ผู้ดื่มดื่มมากขึ้นและเกิดอาการมึนเมาหนัก

วันนี้(31 ธันวาคม 2556) นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานฯ ออกตรวจการละเมิดกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ในสำนักงานสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่  5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา เพชรบูรณ์ เลย และ เชียงใหม่ เพื่อป้องกันและลดปัญหาดื่มแล้วขับ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุจราจรมากอันดับ 1 ในขณะนี้

ผลการตรวจใน4 วันแรกของเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วันที่ 27 - 30 ธันวาคม พ.ศ. 2556  ได้ตรวจสอบทั้งหมด 204 ราย พบการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551และดำเนินคดีจำนวน 63 ราย ความผิดอันดับ1ได้แก่การโฆษณา สื่อสารการตลาด จำนวน 45 ราย มีโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี ปรับ 500,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 50,000บาท จนกว่าจะเลิกโฆษณา อันดับ 2 คือ การขายด้วยวิธีการต้องห้าม เช่น ลดแลกแจกแถม การชิงโชคชิงรางวัล เป็นต้น จำนวน 18 ราย มีโทษสูงสุดจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อันดับ 3 ได้แก่ ขายในสถานที่ต้องห้ามตามกฎหมาย เช่นในศาสนสถาน สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ จำนวน 4 รายมีโทษสูงสุดจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอันดับ 4 ได้แก่ การขายให้บุคคลอายุน้อยกว่า 20 ปี จำนวน 1ราย มีโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับทั้งนี้ผู้กระทำผิด 1 รายอาจจะทำผิดหลายกระทง

นายแพทย์สมาน กล่าวต่อว่า ในวันที่ 31 ธันวาคม นี้ คาดว่าจะมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันมาก เนื่องจากเป็นวันส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่หรือคืนเคาท์ดาวน์ ประชาชนนิยมดื่มฉลองกันมาก จุดที่น่าเป็นห่วงมากในขณะนี้คือจุดที่มีการเฉลิมฉลองบนดอย บนภูเขา จากการไปตรวจที่จังหวัดเลย พบว่าบริเวณทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูเรือ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย มีการเปิดลานเบียร์ในระยะไม่ถึง100 เมตร ก่อนถึงประตูด่านทางขึ้นภูเรือ ซึ่งเป็นที่น่าวิตกกังวลต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบส่งเสริมการขาย เช่นการจัดบุฟเฟ่ต์เบียร์ ดื่มได้ไม่อั้น ซึ่งเริ่มพบได้มากขึ้น อาจทำให้คนเมาหนักขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจราจร เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะกดการทำงานของประสาทในสมอง ความสามารถการขับรถลดลง บังคับยวดยานได้ลำบาก จึงขอแนะนำเมื่อดื่มแล้วต้องไม่ขับรถทุกชนิด    

ทั้งนี้เมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นหล้าหรือเบียร์เข้าไป ร้อยละ 95 ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดผ่านทางเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอย่างรวดเร็ว ระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 20-30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีปฏิกิริยาทำให้ผู้ดื่มแจ่มใส ร่าเริงขึ้น หากมีระดับ 50-60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะทำให้ผู้ดื่มตัดสินใจช้าลง อยู่ในอาการมึนเมา มี โอกาสเกิดอุบัติเหตุมากกว่าคนไม่ดื่มถึง 2 เท่าตัว หากยังดื่มหนักต่อต่อเนื่อง สูงขึ้นกว่านี้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ หากถึง 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีผลให้กดศูนย์หายใจ หมดสติ ไม่รู้สึกตัว