ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แนวหน้า - นายแพทย์ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการร่วมประชุมกลุ่ม ผู้เชี่ยวชาญระหว่างภูมิภาคขององค์การอาหารและเกษตร แห่งสหประชาชาติ หรือเอฟเอโอ(FAO:Food and Agriculture Organization of the United Nations) และองค์การอนามัยโลก ที่สำนักงานใหญ่เอฟเอโอ ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ที่ประชุมได้ให้ความสนใจเรื่องความปลอดภัยอาหาร เนื่องจากขณะนี้ ประชากรโลกเพิ่มขึ้นและปัญหาภาวะโลกร้อนอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตอาหาร การปนเปื้อนอาหารจากเชื้อโรคหรือสารเคมีอันตราย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการส่งเสริมให้ทุกประเทศพัฒนาระบบอาหารปลอดภัย เอฟเอโอได้คัดเลือกผู้เชี่ยวชาญจาก 10 ประเทศรวมทั้งผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุขไทย ร่วมกันจัดทำคู่มือแนวทาง การพัฒนานโยบายอาหารปลอดภัยแบบสมดุลในระยะยาว เพื่อใช้เป็นแนวทางการทำนโยบายอาหารปลอดภัยของ แต่ละประเทศทั่วโลก

ทั้งนี้ในการศึกษากระบวนการพัฒนานโยบายอาหารปลอดภัยแบบสมดุลนี้ จะใช้ข้อมูลหลายส่วนประกอบกัน ได้แก่ ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ด้านอาหารอิงตามมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ หรือโคเด็กซ์ (CODEX) ปัจจัยความเสี่ยงทางสุขภาพของประชาชน ที่เกิดจากการบริโภคอาหารปนเปื้อนทั้งจุลินทรีย์อันตราย และสารเคมีต่างๆ รวมทั้งด้านเศรษฐกิจการค้า ความมั่นคง ทางอาหาร การท่องเที่ยว และระบบการจัดการในลักษณะ ของการมีส่วนร่วมจากทุกภาคีทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ภายใต้นโยบายด้านสาธารณสุขของประเทศไทย คือสุขภาพดี เริ่มต้นที่นี่ ซึ่งการกำหนด นโยบายด้านอาหารอาจแตกต่างกันตามระดับเศรษฐานะของประเทศ หากเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา อาจต้องคำนึงถึงคือความมั่นคงทางอาหาร ปัญหาโภชนาการ รวมถึงการท่องเที่ยวและการส่งออกที่จะเสริมสร้างรายได้ของประเทศอีกด้วย

นางจงกลนี วิทยารุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการสำนัก ส่งเสริมและสนับสนุนอาหารปลอดภัย กล่าวว่า โครงการความร่วมมือกับเอฟเอโอนี้ จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน มกราคม-ธันวาคม 2557 ประธานคณะทำงานหลักคือ กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อกำหนดทิศทางร่วมกัน โดยจะมีการจัดประชุมภาคีที่เกี่ยวข้องในประเทศ 2 ครั้ง และระหว่างประเทศใน ภูมิภาคเอเชียอีก 1 ครั้งในเดือนตุลาคม 2557 นี้ ที่ผ่านมา ได้ประชุมหารือความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหารจากเอฟเอโอใหญ่ และเอฟเอโอภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกับฝ่ายไทยประกอบด้วย กระทรวง สาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และมูลนิธิชีววิถี

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า  วันที่ 15 มกราคม 2557