ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค จับมือสำนักอนามัย เขตบางเขน จัดโครงการนำร่องดูแลสุขภาพคนอยู่คอนโดฯ เตรียมสำรวจสุขภาวะ ฉีดวัคซีนป้องกันโรค ให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ พร้อมสิทธิการรักษา หลังพบขาดการดูแลสุขภาพตนเอง คาดใช้งบ 5 แสนบาท

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)  เปิดเผยว่า ปัจจุบันคอนโดมิเนียม เป็นที่พักอาศัยที่นิยมกันมาก ทั้งกรุงเทพมหานคร และเมืองใหญ่ๆในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต  โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร มีคอนโดมิเนียมมากกว่า 627 โครงการ มีผู้อาศัยไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน  โดยข้อมูลปี 2556 พบว่ายอดโอนกรรมสิทธิคอนโดมิเนียมสูงกว่า 50,000 หน่วย  และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดพบว่าคอนโดมิเนียมแต่ละแห่งจะมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 1,000-2,000 คน  ซึ่งจัดเป็นชุมชนหนึ่ง แต่กลับไม่มีระบบการจัดการสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ไม่มีอาสาสมัครสาธารณสุข ไม่มีฐานข้อมูลสุขภาพผู้พักอาศัยในคอนโดมิเนียมเลย  ทั้งๆที่กลุ่มนี้เป็นกลุ่มวัยทำงานที่เสี่ยงเกิดโรคจากวิถีชีวิตสมัยใหม่ ทั้งอาการปวดเมื่อยจากออฟฟิสซินโดรม  โรคเครียดสะสม หรือแม้กระทั่งโรคอ้วน ซึ่งทั้งหมดเสี่ยงเกิดโรคเรื้อรังทั้งสิ้น

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ (สคร.)1 กล่าวว่า   สคร. 1  เล็งเห็นความสำคัญในการดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชนเมือง  ซึ่งปัจจุบันอาศัยในที่พักแบบแนวตั้ง คือ คอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ แฟลต   ปัญหาคือ ที่ผ่านมาไม่มีข้อมูลว่าคนกลุ่มนี้มีสุขภาพอย่างไร และเสี่ยงเกิดโรคอะไรบ้าง รวมทั้งเสี่ยงเกิดโรคระบาดในชุมชน โดยเฉพาะโรคในระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่  รวมไปถึงโรคไข้เลือดออก ประกอบกับคนกลุ่มนี้มาจากหลายแห่ง ทำให้สิทธิการรักษาค่อนข้างหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และสิทธิประกันสังคม    ซึ่งมักจะไม่ได้ใช้บริการตามสิทธิ อาจเพราะไม่มีเวลา  ตรงนี้สำคัญทำให้ละเลยการดูแลสุขภาพโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกไม่สบายจะหันไปซื้อยารับประทานเอง ด้วยเหตุนี้ สคร. 1 จึงจัดทำโครงการ Healthy Condo Model ขึ้น ภายใต้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว "One Health"  โดยดำเนินการร่วมกับสำนักอนามัย กรงุเทพมหานคร(กทม.) และสำนักงานเขตต่างๆ เบื้องต้นจะนำร่องในเขตบางเขน  โดยมีคอนโดมิเนียม 2 แห่งเข้าร่วมโครงการ

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า  ขณะนี้ได้ประสานกับทางสำนักงานเขตบางเขน  และคอนโดมิเนียม 2 แห่งที่ให้ความสนใจ โดยแต่ละแห่งจะมีผู้อยู่อาศัยกว่า 1,000-2,000 คน  โดย สคร. 1 จะเข้าไปทำกิจกรรมต่างๆ แบ่งการทำงาน 5 เฟส   โดยจะลงพื้นที่พัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพที่เขตบางเขนครั้งแรกในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ เนื่องจากเป็นวันความดันโลหิตโลก ซึ่งจะให้ความสำคัญในการตรวจวัดความดันว่าเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง หรือไม่    โดยจะเริ่มจากการสำรวจข้อมูลสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม  สำรวจปัญหาสุขภาพว่า มีโรคอะไรบ้าง เช่น โรคเรื้อรัง โรคติดต่อ โรจจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม  รวมไปถึงสอบถามถึงสิทธิการรักษาสุขภาพ ความสนใจเรื่องสุขภาพต่างๆ และพฤติกรรมทางสุขภาพ เป็นต้น  ซึ่งทั้งหมดจะนำมาประเมินความเสี่ยงว่าจะมีความเสี่ยงก่อโรคอะไรบ้าง และในระดับใด เพื่อหาแนวทางป้องกัน และรักษาต่อไป 

นพ.โสภณ กล่าวว่า  หลังจากนั้นก็จะมีการดูแลสุขภาพด้านต่างๆ ทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันโรค การให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพแต่ละช่วงวัย และจะมีการจัดทำแอฟพลิเคชั่นสำหรับผู้อยู่อาศัยคอนโดมิเนียม ในการติดตามข่าวสาร รวมไปถึงจะส่งเสริมให้เกิดการตั้ง "อาสาสมัครสุขภาพประจำคอนโดมิเนียม หรืออสส." ขึ้นเป็นครั้งแรก  โดยจะทำหน้าที่ในการประสานความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพ การป้องกันโรค รวมไปถึงการสื่อสารเรื่องสิทธิการรักษาในแต่ละกองทุนที่ผู้อยู่อาศัยมีสิทธินั้นๆ ด้วย   โดยอาสาสมัครคอนโดมิเนียม  หรือ อสส. นั้น จะมีการเปิดรับสมัคร และกำหนดคุณสมบัติ ร่วมกันระหว่างคนในคอนโด  ทั้งนี้ หากโครงการนำร่องที่เขตบางเขนเป็นที่น่าพอใจก็จะมีการขยายไปยังเขตอื่นๆ  ตั้งเป้าภายในปี  2557  คาดว่าจะได้ถึง 100 แห่ง จากนั้นจะขยายเพิ่มเติม  ส่วนงบประมาณในการดำเนินการโครงการนั้น เป็นการทำงานร่วมกันของแต่ละหน่วยงาน ทั้งสคร. สำนักอนามัย กทม. และสำนักงานเขตบางเขน โดยใช้งบประมาณไม่เกิน 5 แสนบาท