ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข เผยยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากหมอกควันไฟภาคเหนือ ผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่นโรคหัวใจ ถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง อาจเกิดอาการกำเริบหรือรุนแรงขึ้น โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้อสม. และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ออกแนะนำประชาชนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการสูดฝุ่นละอองควันไฟเข้าปอด หลีกเลี่ยงการออกนอกอาคาร เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลและเวชภัณฑ์ยาดูแลผู้ป่วย 24 ชั่วโมง

          

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2558) ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีข่าวมีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์หมอกควันในภาคเหนือจำนวนกว่า 400 รายนั้น ขอยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง จากการเฝ้าระวังของโรงพยาบาลใน 9 จังหวัดภาคเหนือ จนถึงขณะนี้ ไม่มีผู้ที่เสียชีวิตจากปัญหาหมอกควันแต่อย่างใด มีเพียงผู้ป่วยที่เป็นโรคประจำตัวเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะโรคหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ที่อาจมีอาการกำเริบหรือรุนแรงได้ง่ายกว่าประชาชนทั่วไป เนื่องจากฝุ่นละอองของหมอกควันจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ และมีผลให้ร่างกายผู้ป่วยได้รับออกซิเจนน้อยลงได้

นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ว่า เช้าวันนี้ได้ร่วมประชุมทางไกลเกี่ยวกับสถานการณ์หมอกควันในจังหวัดภาคเหนือ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กองทัพภาคที่ 3 และป้องกันภัยจังหวัด 9  จงหวัดภาคเหนือ โดยมี พลเอกสกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม โดยสถานการณ์หมอกควันส่วนใหญ่บรรเทาลง เหลือเพียงจังหวัดแม่ฮ่องสอน และตากที่ยังมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในอากาศเกินมาตรฐานเล็กน้อย ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้วางระบบการป้องกันผลกระทบด้านสุขภาพ โดยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุข ออกให้คำแนะนำประชาชนในการป้องกันการสูดละอองควันไฟตามระดับความเข้มข้นปริมาณฝุ่นควัน ทั้งประชาชนทั่วไป และกลุ่มเสี่ยงสูงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น โดยในระยะนี้ ขอให้ทุกคนอยู่ภายในบ้าน ในห้องที่มีอากาศบริสุทธิ์ หลีกเลี่ยงการออกนอกอาคาร หากจำเป็นหรือต้องเดินทางแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง หรือใช้ผ้าขาวบางประกบ 2 ชั้น ปิดปากและจมูก เพื่อกรองละอองฝุ่นหมอกควัน 

ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยแก่ประชาชนไปแล้วกว่า 300,000 ชิ้น  

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข ยังได้ให้สถานบริการทุกระดับ ตั้งแต่โรงพยาบาลศูนย์จนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน รวม 800 กว่าแห่ง เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ เวชภัณฑ์ ยา เพื่อให้การดูแลรักษาตลอด 24 ชั่วโมง ผลการให้บริการรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่มีปริมาณหมอกควันเพิ่มสูงสุด พบว่า มีผู้ป่วยเข้ารับการตรวจรักษาประมาณ 52,000 ราย ประกอบด้วย โรคที่พบมากอันดับแรก คือกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด 28,000 ราย รองลงมาคือกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง 20,000 ราย โรคผิวหนังอักเสบ ผื่นคัน 1,900 ราย และกลุ่มโรคตาอักเสบหรือระคายเคืองประมาณ 1,600 ราย