ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัด สธ.ขอร้องหยุดการเคลื่อนไหว 29 ม.ค.แจงยินดีรับฟังทุกข้อคิดเห็นและเสียงท้วงติงจาก พี่น้องสาธารณสุขทุกระดับ พร้อมรับข้อเสนอไปดำเนินการต่อ ระบุได้กำหนดให้มีประชุมติดตามงานแก้ปัญหาทุกเดือนอยู่แล้ว ชี้ไม่ใช่แค่ รพ.สต.ที่ไม่มีกฎกระทรวงรองรับ แต่รวมถึง รพช. รพศ. รพท.ด้วย พร้อมเผยความคืบหน้า อยู่ระหว่างแก้ไขกฎกระทรวงให้รองรับ และเพิ่มบทบาทหน้าที่ให้ สสจ.และ สสอ.ทำหน้าที่ส่งเสริมป้องกันโรคได้ด้วย

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2559 นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้โพสต์ใน Facebook ส่วนตัว ซึ่งเป็นคำกล่าวในการประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การเงินการคลัง และยุทธศาสตร์ของสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.)และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หรือสถานีอนามัย ว่า งานตามนโยบายของรัฐบาลที่สำคัญคือเรื่องการบริหารราชการ การปฏิรูป และการสร้างความปรองดองในชาติ งานที่ต้องเร่งรัดในปีนี้ คือ การดูแลผู้สูงอายุระยะยาว และบูรณาการ 5 กลุ่มวัยในตำบลจัดการสุขภาพ การลดการตายจากการบาดเจ็บทางถนน การลดโรคไตเสื่อม การควบคุมโรคพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งท่อน้ำดี

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า การพยายามแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในทุกวิชาชีพของกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เกิดความปรองดอง ต้องเชิญมาพบชี้แจงทำความเข้าใจและตอบปัญหาต่างๆ ในวันนี้ (22 ม.ค.) ดังนี้

1. ปัญหาไม่มีโครงสร้าง รพ.สต.ในกฎกระทรวงสาธารณสุขนั้น ขอเรียนว่าในขณะนี้ไม่มีทั้งโรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) โรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) และ รพ.สต. ขณะนี้กำลังแก้ไขกฎกระทรวงให้มีครบดังนี้ คือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) รพศ., รพท, รพช., รพ.สต. และ สอน. (สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ) รวมถึงการเพิ่มบทบาทหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ให้ดำเนินการเรื่องการส่งเสริมสุขภาพป้องกันควบคุมโรคในกฎกระทรวงสาธารณสุขด้วย

2. การปรับเปลี่ยนโครงสร้าง รพ.สต.ที่ผ่านที่ประชุม อ.ก.พ.สป.สธ.เกิดจากการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนแล้ว แต่ยินดีที่จะปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นเพราะเรื่องของโครงสร้างสามารถแก้ไขได้

“ผมไม่คิดว่าเรื่องโครงสร้างเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ยินดีรับฟังและพร้อมจะทบทวน วันนี้มีการประชุมอ.ก.พ.สป. ได้สอบถามที่ประชุมผู้แทนทุกจังหวัดว่าจะให้ทบทวนหรือไม่ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการต่อโดยการกำหนดแผนอัตรากำลังที่จำเป็น” นพ.โสภณ กล่าว

3. การกำหนดชื่อตำแหน่งของผู้อำนวยการ รพ.สต.เป็นสิ่งที่กำหนดได้อยู่แล้ว ยินดีรับฟังจากเสียงส่วนใหญ่

“ยินดีรับฟังข้อคิดเห็นและข้อท้วงติงจากพี่ๆ น้องๆ สาธารณสุขทุกระดับ ได้กำหนดให้มีเวทีประชุมติดตามงานและแก้ปัญหาทุกเดือน ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องระดมพลมาที่ส่วนกลาง จึงขอร้องให้หยุดการเคลื่อนไหวในการระดมคนในวันที่ 29 มกราคมนี้ แต่ยังยินดีรับข้อเสนอไปดำเนินการต่อครับ” ปลัด สธ.กล่าว