ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.เสนอนายกฯ พัฒนาระบบปฐมภูมิ มีทีมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ในสัดส่วนที่เหมาะสม ขอตำแหน่งข้าราชการแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังคน ขอคืนตำแหน่งเมื่อเกษียณอายุ ขอตำแหน่งสูงขึ้นโดยไม่ต้องเอาตำแหน่งมายุบ และการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษ ขอใช้ ม.44 แก้ อย.ขึ้นทะเบียนล่าช้า เพิ่มค่าตอบแทนผู้เชี่ยวชาญอ่านเอกสารให้ขึ้นทะเบียนเร็วขึ้น

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ที่กระทรวงสาธารณสุขพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2560 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่มีเป้าหมายทำให้คนไทยอายุยืนยาวขึ้นอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี เจ็บป่วยลดลง พฤติกรรมที่ไม่ดีให้ลดลง ซึ่งได้บูรณาการทำงานร่วมกับกระทรวงอื่น เช่น การดูแลพัฒนาเด็ก หรือเด็กไทยในยุค 4.0 นำ 4 H ของกระทรวงศึกษามาดำเนินการร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคม กระทรวงมหาดไทย ในส่วนผู้สูงอายุบูรณาการในเรื่อง 3 S

และเรื่องการลงทุนในระบบบริการที่ได้ดำเนินการร่วมกับโรงเรียนแพทย์ กระทรวงศึกษาธิการ จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ทำแผนลงทุนร่วมกันเพื่อไม่ซ้ำซ้อนกัน ประหยัดงบประมาณ โดยจะรวบรวมเสนอเป็นแผนยุทธศาสตร์ในระยะ 5 ปี เสนอเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี 

เรื่องการขับเคลื่อนนโยบาย คลินิกหมอครอบครัว ในปีงบประมาณ 2560 ต้องให้มีทีมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ตามรัฐธรรมนูญในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยจะของบประมาณจากรัฐบาล เพื่อพัฒนาระบบปฐมภูมิ ในด้านกำลังคน ได้นำเสนอในเรื่องการขาดแคลน โดยขอตำแหน่งข้าราชการ ขอคืนตำแหน่งเมื่อเกษียณอายุ การขอตำแหน่งสูงขึ้นโดยไม่ต้องเอาตำแหน่งมายุบ และการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษ กรณีทำงานในส่วนที่ไม่น่าอภิรมย์ 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงสาธารณสุขช่วยในด้านเศรษฐกิจ เช่น การขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้ขึ้นทะเบียนได้เร็ว ขอให้สนับสนุนเรื่องของสมุนไพรไทยและเครื่องมือแพทย์ที่ผลิตในประเทศ เพื่อให้พึ่งตัวเองได้ ประหยัดงบประมาณ และเพิ่มรายรับของประเทศ

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อาจจะขอใช้มาตรา 44 แก้กฎหมายที่ติดขัด เพื่อให้ขึ้นทะเบียนได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากปัญหาการจ่ายค่าตอบแทนผู้เชี่ยวชาญ หากเรียกเก็บได้ในอัตราที่เหมาะสม จะสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญจากมหาลัยต่างๆ มาช่วยอ่านเอกสาร จะช่วยให้การขึ้นทะเบียนเร็วขึ้น