ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รพ.สุรินทร์-กระทรวงสาธารณสุข แสดงความเสียใจ นักศึกษาแพทย์ตกตึกเสียชีวิต! ด้าน “ชลน่าน” อาลัย ชี้มูลเหตุต้องรอตำรวจสืบสวน เบื้องต้นรับรายงานไม่เกี่ยวกับการฝึกปฏิบัติงาน ย้ำ! สธ.ต้องหามาตรการป้องกันเหตุซ้ำ

 

ตามที่มีข่าวนักศึกษาแพทย์ปี 6 พลัดตกอาคารสูง 9 ชั้นของโรงพยาบาลเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น

 

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม โรงพยาบาลสุรินทร์ ออกแถลงการณ์ กรณีการเสียชีวิตของนักศึกษาแพทย์ สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) อย่างกระทันหัน โดยระบุว่า รพ.ขอแสดงความเสียใจจากการเสียชีวิตของ นักศึกษาแพทย์ ยังความเศร้า เสียใจอย่างที่สุดต่อบุคลากร เจ้าหน้าที่ ครอบครัว และญาติมิตร รวมถึงคณาจารย์ เพื่อนนักศึกษา ผู้ใกล้ชิด และผู้ที่รับทราบเหตุการณ์ทุกคน

 

ในการนี้ รพ.สุรินทร์ ขอความร่วมมือและวิงวอนไปยังทุกฝ่ายได้โปรดให้ความเคารพในความเป็นส่วนตัวของผู้วายชนม์และครอบครัว โดยไม่เผยแพร่ข้อมูล หรือภาพที่ไม่เหมาะสมในสื่อสาธารณะใดๆ อันจะส่งผลต่อความทุกข์โศก สะเทือนใจของครอบครัว รวมถึงผู้ที่รักในตัวนักศึกษาแพทย์ผู้วายชนม์นี้

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก กระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความว่า “ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องนักศึกษาแพทย์ผู้จากไป ด้วยความอาลัยยิ่ง”

 

วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 โดดดาดฟ้าชั้น 9 ตึกศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนได้รับรายงานข้อมูลการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่านักศึกษารายดังกล่าวนั้น เป็นนักศึกษาแพทย์เวชปฏิบัติชั้นปีที่ 6 ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สำนักวิชาแพทยศาสตร์ ซึ่งผ่านการสอบมาแล้ว 1 ครั้ง เหลือการสอบอีก 2 ครั้ง ก็จะจบการศึกษาเพื่อมาเป็นแพทย์ฝึกหัด (Intern) ใน รพ.

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้ใช้ รพ.สุรินทร์ เป็น รพ. ฝึกเรียนรู้ให้กับนักศึกษาแพทย์ ซึ่งนักศึกษาแพทย์รายดังกล่าวได้มาฝึกปฏิบัติงานที่ รพ.สุรินทร์ เท่าที่ทราบข้อมูล สาเหตุในการตัดสินใจของนักศึกษาแพทย์รายดังกล่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฝึกปฏิบัติงานใน รพ. ส่วนจะเกิดจากสาเหตุใดนั้น ก็ต้องรอการสืบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป  ทั้งนี้ ทาง สธ. เองก็จะต้องมีการหารือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก