ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

รมว.สธ.เร่งวางระบบการบริหารเงิน บริหารกำลังคนของกระทรวงสาธารณสุข ให้เหมาะสมกับภาระงานทุกพื้นที่ หลังบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการ เน้นนำเทคโนโลยีมาใช้ ลดกำลังคนที่ไม่จำเป็น เพิ่มการบริการที่รวดเร็วขึ้น

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 55 นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความ คืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขว่า ในการแก้ปัญหาดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ใช้กำลังคนอย่างเหมาะสม ให้โรงพยาบาลจ้างตามความจำเป็นตามภาระงาน

นายแพทย์ประดิษฐ กล่าวว่า สำหรับปัญหาพยาบาล ซึ่งที่ผ่านมาเป็นปัญหาเรื้อรัง กระทรวงสาธารณสุขได้เจรจาขอ ก.พ.ทั้งระบบ มีแผนการจัดอัตรากำลังรองรับกับทิศทางการพัฒนาระบบริการทุกพื้นที่ทั่ว ประเทศอย่างชัดเจน เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีการใช้บุคลากรอย่างเหมาะสม และมีแผนลดการใช้กำลังคนโดยไม่จำเป็นโดยนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ อาทิ การใช้คอมพิวเตอร์ปรับปรุงระบบการจ่ายยา การใช้เอกซเรย์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ไม่ต้องเสียเวลาล้างฟิล์มให้บริการรวดเร็วขึ้นเป็นต้น เป็นคำสัญญาเพื่อจะทำให้เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขใช้คนอย่างมีประสิทธิภาพตามภาระงานจริงๆ

นายแพทย์ประดิษฐ กล่าวต่อว่า ภายในระยะเวลา 3 ปี พ.ศ. 2555-2557 จะมีการบรรจุปีละ 7,547 คน ขณะนี้สิ่งที่ต้องคุยคือเรื่องของระเบียบการใช้เงินของโรงพยาบาล จากการที่ลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพ ได้บรรจุเป็นข้าราชการพลเรือน จะใช้งบประมาณเกือบ 2,000 ล้านบาท ซึ่งไม่ต้องเพิ่มเงิน เนื่องจากเป็นเงินที่ได้มาจากค่าหัวอยู่แล้ว ส่วนกรณีหากเป็นลูกจ้างชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุขใช้เงินบำรุงของโรงพยาบาลแต่ละแห่งมาเป็นค่าจ้าง ดังนั้น เมื่อลูกจ้างชั่วคราวฯ ได้บรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนแล้ว ภาระรายจ่ายของโรงพยาบาลก็จะลดลง ไม่ต้องเอาเงินบำรุงมาจ่ายอีก เพราะรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงินเดือนแทนจากการที่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ และเมื่อครบ 3 ปี เงินที่เคยจ่ายให้ลูกจ้างประมาณ 30,000 คน ก็จะเหลือจ่ายแค่ประมาณ 7,500 คน แต่จากการที่กำหนดเงินเดือนเพิ่มขึ้น อาจจะเหมือนกับจ่ายให้ 10,000 คน ก็เท่ากับโรงพยาบาลก็จะใช้เงินบำรุงน้อยลงไปเกือบร้อยละ 50 และหากจะรับลูกจ้างแต่ละครั้งจะต้องพิจารณาตามความจำเป็นกับภารกิจงาน

ที่มา: http://www.thairath.co.th