ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

วันนี้ (28 สิงหาคม 2556) ที่จังหวัดอุดรธานี นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วยนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดสัมมนาวิชาการพยาบาลวิชาชีพระดับบริหารและปฏิบัติการ จากภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศจำนวน 1,600 คน เรื่องการบริหารการพยาบาลในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง และมอบโล่รางวัลคุณภาพการปฏิบัติการพยาบาลเป็นเลิศ จัดโดยสำนักการพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข มูลนิธิ ดร.วรรณวิไล และชมรมผู้บริหารทางการพยาบาลแห่งประเทศไทย

นายแพทย์ประดิษฐกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ให้มีศักยภาพสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยแบ่งการบริหารจัดการเครือข่ายบริการในส่วนภูมิภาคออกเป็น 12 เขตสุขภาพ เขตละ 5-7 จังหวัด ประชากรประมาณ 3-5 ล้านคน กำหนดเป้าหมายพัฒนาระบบบริการสุขภาพเป็น 10 สาขา เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึงในมาตรฐานเดียวกัน เป้าหมายหลักคือให้คนไทยมีสุขภาพดี มีอายุยืนเฉลี่ยแรกเกิดให้ได้ 80 ปีใน 2566 ตามนโยบายรัฐบาล บุคลากรหลักที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาครั้งนี้ให้ประสบผลสำเร็จคือวิชาชีพพยาบาล ซึ่งเป็นกำลังคนส่วนใหญ่ในระบบบริการสุขภาพ ทำหน้าที่ดูแลทั้งคนไม่ป่วยและดูแลผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมงด้วยความเสียสละ

นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเศรษฐกิจ เพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 มีการขยายหลักประกันสุขภาพแก่ประชาชนไทย และการขยายบริการสุขภาพเพื่อรองรับการเปิดเสรีด้านการค้าบริการในฐานะศูนย์กลางการบริการการแพทย์ (Medical Hub) ในภูมิภาคเอเชีย ทำให้มีความต้องการพยาบาลเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับพยาบาลเป็น 1 ใน 7 แรงงานฝีมือที่สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในอาเซียน อาจจะเกิดปัญหาการไหลออกของพยาบาลไทยไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน โดยขณะนี้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมีพยาบาลวิชาชีพ 64,655 คน ในขณะความต้องการอยู่ที่ 111,168 คน ยังขาดอีก 46,513 คน ซึ่งต้องมีการเตรียมการรับมือกับปัญหาดังกล่าว

นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่ออีกว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำแผนกำลังคนด้านสุขภาพ เพื่อให้บุคลากรทุกคนปฏิบัติงานบนฐานความรู้ มีแผนผลิตและจัดสรรกำลังคนให้เหมาะสมกับสถานบริการทุกระดับ โดยเมื่อ14 พฤษภาคม2556 คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการเพิ่มการผลิตและพัฒนาการศึกษาสาขาวิชาพยาบาล ปีการศึกษา 2557-2560 มีเป้าหมายผลิตพยาบาล 27,960 คน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพยาบาลและให้สามารถรองรับการขยายศักยภาพการให้บริการด้านสาธารณสุขของประเทศในทุกภาคส่วน รวมทั้งมีนโยบายปรับปรุงค่าตอบแทนต่างๆ ให้แก่บุคลากรสาธารณสุข ให้สอดคล้องกับภาระงาน เพื่อลดปัญหาการไหลออกจากระบบ เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดการทำงานซ้ำซ้อน เป็นต้น

นอกจากนี้ ได้ขอกำหนดตำแหน่งข้าราชการเพิ่มเติมระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2556-2560 ตามเหตุผลความจำเป็นและมีการกระจายตัวที่เหมาะสม มีการปรับระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อบรรจุพยาบาลและสหวิชาชีพอื่นๆ ที่ค้างบรรจุตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ในปีงบประมาณ 2556 ได้รับการจัดสรร 7,547 อัตราตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการครบถ้วนแล้ว ส่วนในปีงบประมาณ 2557 - 2558 คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำข้อมูลภาระงานของตำแหน่งและสถานบริการในสังกัด เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาจัดสรรอัตราข้าราชการเพิ่มใหม่ รวมทั้งปฏิรูประบบการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข และค่าตอบแทนให้เกิดความเป็นธรรมและเหมาะสมต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจะเร่งให้เสร็จโดยเร็วที่สุด